ราหู(๘)ล่าจันทร์(๒) กับจันทร์(๒) ล่าราหู(๘) ต่างกันอย่างไร

ท่านอาจารย์บรรเทา จ้นทร์ศร(อุตรภัทร์) ท่านได้นำคำสอนของพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณสุเมธีวรคุณ แห่งวัดเกาะจังหวัดประจวบคีรีขัณฑ์ มาอธิบายเพิ่มเติมเนื้อหาของดาวราหู(๘) กับดาวจันทร์(๒)
หลักการของท่านเจ้าคุณฯ ว่า หากนับจากดาวราหู(๘) ทวนเข็มนาฬิกา ไป ๓ ราศี แล้วมีดาวจันทร์(๒) อยู่ เรียกว่า จันทร์(๒) “จันทร์ล่าราหู”
และนับจากราหู(๘) ทวนเข็มนาฬิกาไป ๑๑ ราศี แล้วมีดาวจันทร์(๒) เรียกว่า “ราหู(๘) ล่าจันทร์(๒)
#หากจันทร์(๒) ล่าราหู(๘) ราหูก็เสีย จันทร์ ล่าราหู ดาวราหู(๘) จะให้ร้ายแก่เจ้าชาตา การที่ดาวราหู(๘) ให้ร้ายก็มีลักษณะเป็นไปเหมือนเช่น ดาวราหู(๘) แก่ลัคนา คือ หูเบาใจง่าย ใจอ่อน ขี้สงสาร ชอบช่วยเหลือคนโดยปราศจากเหตุผล และเดือดร้อนเพราะความช่วยเหลือเกื้อกูลคนอื่นอยู่เนือง ๆ และราหู(๘) อยู่ในภพใดของเจ้าชาตา ก็จะทำให้ภพนั้นได้รับอิทธิพลความร้ายกาจของดาวราหูไปด้วย
ดาวราหู(๘) เป็นดาวประเภทโมหะจริต คือความหลงไหล งมงาย หมายถึง เป็นคนใจอ่อน เชื่อคนง่าย ชอบยกยอปอปั้น และสิ่งเหล่านี้จะทำลายตัวเองจนน้ำตาตก บางคนให้เงินคนอื่นยืมไป แต่ไม่สามารถทวงคืนได้
#หากราหู(๘) ล่าจันทร์(๒) จันทร์ก็เสีย คือจันทร์(๒) เป็น ๑๑ แก่ราหู(๘) ดาวจันทร์(๒) ก็ให้โทษแก่เจ้าชาตา
ดาวจันทร์(๒) คำจำกัดความว่า “รูปจริตทายจันทร์” ซึ่งหมายถึง รูปร่างและจริตกิริยา
ในดวงชาตาใดที่มีดาวจันทร์(๒) เด่น หรือพระจันทร์ได้ตำแหน่งดี เช่นพระจันทร์(๒) กุมลัคน์ เจ้าชาตาก็จะเป็นคนมีเสน่ห์ มหานิยมเป็นเยี่ยม ใครพบใครเห็นก็เกิดความรัก ความใคร่และความพอใจ สำหรับดวงสุภาพสตรีที่ดาวจันทร์(๒) กุมลัคน์ โอกาสที่จะเลือกคู่ครองย่อมมีมากกว่าผู้อื่น เพราะมีผู้ชายมากหน้าหลายตามาเสนอตัวให้เลือก
#ตรงกันข้ามหากดาวจันทร์(๒) เสีย รูปร่างไม่สวย มีกิริยาไม่น่าดู มีร่างกายไม่แข็งแรง ขี้โรค มักได้คู่เป็นหม้ายเป็นต้น บางตำราเพ่งไปถึงน้ำนม หมายถึงว่าไม่มีน้ำนมให้ลูกกิน เช่น คนที่ดาวจันทร์(๒) เป็นวินาสน์แก่ลัคน์ มักจะเป็นคนมีหน้าอกไข่ดาว หน้าอกแห้ง เป็นคนไม่เสน่ห์สำหรับเพศตรงข้าม หากดาวเจ้าเรือนปุตตะ อยู่ในตำแหน่งไม่ดี ก็อาจจะเป็นหมัน ไม่สามารถที่จะมีบุตรได้ จะเป็นคนเฉื่อยชา ไม่กระตือรือร้น เป็นคนขาดเสน่ห์ ขาดความอ่อนหวาน ส่วนมากจะอาภัพมารดา เจ้าชาตาจะไม่ค่อยถูกกับแม่หรืออาจจะพลัดพรากจากแม่ นัยน์ตาจะฝ้าฟาง สายตาจะเสียก่อนวัยอันสมควร