นวางค์-ตรียางค์ คืออะไร

๑. ต้องจำดาวเกษตรประจำแต่ละราศีให้ได้ก่อน
๑. ราศีธาตุไฟ มีราศีเมษ ราศีสิงห์ และราศีธนู จะเริ่มต้นนวางค์ลูกแรกที่ดาว ๓ ซึ่งเป็นดาวเกษตรของราศีเมษ เป็นแม่ธาตุไฟ นวางค์ลูกที่ ๒ คือดาว ๖ นวางค์ลูกที่ ๓ คือ ดาว ๔ นวางค์ลูกที่ ๔ คือ ดาว๒ นวางค์ลูกที่ ๕ คือดาว ๑ นวางค์ลูกที่ ๖ คือ ดาว ๔ นวางค์ลูกที่ ๗ คือ ดาว ๖ นวางค์ลูกที่ ๘ คือดาว ๓ และนวางค์ลูกที่ ๙ คือดาว ๕ (ตามรูปราศีธาตุไฟ)

.๒.ราศีธาตุดิน มีราศีมังกร ราศีพฤษภ และราศีกันย์ จะเริ่มต้นนวางค์ลูกแรกที่ดาว ๗ ซึ่งเป็นดาวเกษตรของราศีมังกร เป็นแม่ธาตุดิน นวางค์ลูกที่ ๒ คือดาว ๘ นวางค์ลูกที่ ๓ คือ ดาว ๕ นวางค์ลูกที่ ๔ คือ ดาว ๓ นวางค์ลูกที่ ๕ คือดาว ๖ นวางค์ลูกที่ ๖ คือ ดาว ๔ นวางค์ลูกที่ ๗ คือ ดาว๒ นวางค์ลูกที่ ๘ คือดาว๑ และนวางค์ลูกที่ ๙ คือดาว๔ (ตามรูปราศีธาตุดิน)

.๓. ราศีธาตุลม มีราศีตุลย์ ราศีกุมภ์ และราศีเมถุน จะเริ่มต้นนวางค์ลูกแรกที่ดาว ๖ ซึ่งเป็นดาวเกษตรของราศีตุลย์ เป็นแม่ธาตุลม นวางค์ลูกที่ ๒ คือดาว ๓ นวางค์ลูกที่ ๓ คือ ดาว ๕ นวางค์ลูกที่ ๔ คือ ดาว ๗ นวางค์ลูกที่ ๕ คือดาว ๘ นวางค์ลูกที่ ๖ คือ ดาว ๕ นวางค์ลูกที่ ๗ คือ ดาว ๓ นวางค์ลูกที่ ๘ คือดาว ๖ และนวางค์ลูกที่ ๙ คือดาว ๔ (ตามรูปราศีธาตุลม)

.๔. ราศีธาตุน้ำ มีราศีกรกฎ ราศีพิจิกและราศีมีน จะเริ่มต้นนวางค์ลูกแรกที่ดาว๒ ซึ่งเป็นดาวเกษตรของราศีกรกฎ เป็นแม่ธาตุน้ำ นวางค์ลูกที่ ๒ คือดาว ๑ นวางค์ลูกที่ ๓ คือ ดาว ๔ นวางค์ลูกที่ ๔ คือ ดาว ๖ นวางค์ลูกที่ ๕ คือดาว๕ นวางค์ลูกที่ ๖ คือ ดาว ๗ นวางค์ ลูกที่ ๗ คือ ดาว๘ นวางค์ลูกที่ ๘ คือดาว ๕ และนวางค์ลูกที่ ๙ คือดาว๓ (ตามรูปราศีธาตุน้ำ)
#นวางค์ ตรียางค์ ตอนที่ ๒
.#ท่านอาจารย์สิงห์โต สุริยาอาลักษณ์ ท่านกล่าวว่า นักโหราศาสตร์ส่วนมากใช้เพียงดวงราศีจักรเท่านั้นในการพยากรณ์ดวงชาตา ท่านกล่าวว่า ราศีจักร เป็นเพียงตัวตนหรือรูปธรรมที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา แต่นวางค์จักรเป็นนามธรรม หรือเป็นจิตวิญญาณ แสดงให้เห็นถึงเรื่องและอารมณ์ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในร่างกายของเจ้าชาตาที่เจ้าชาตาปกปิดไม่ประสงค์จะเปิดเผยออกมา ถ้าหากใช้แต่เพียงดวงราศีจักร ก็พยากรณ์เรื่องราวต่าง ๆ ให้ถูกต้องแม่นยำได้ยากนักที่ตรงกับความเป็นจริง ฉะนั้น หากเราใช้ทั้งดวงราศีจักรและดวงนวางค์จักรในการพยากรณ์ จะทำให้การพยากรณ์เรื่องราวและเหตุการณ์ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น
.ตัวอย่างเช่น ลัคนาราศีกรกฏ มี ๒๑ องศา ๑๐ ลิปดา เราก็สามารถตรวจสอบจากภาพนี้
ลัคนาราศีกรกฎ มี ๒๑ องศา ๑๐ ลิปดา เป็นราศีธาตุน้ำ จะมีดาว (๒ ๑ ๔ ) (๖ ๓ ๕ ) (๗ ๘ ๕ )
จะดูดาวอะไรอยู่ในนวางค์ที่เท่าไร มีดาวอะไรอยู่ในวางค์นั้น ก็ถือตามหลักเกณฑ์ดังนี้ว่า ใน ๑ ราศี ๓๐ องศา มี ๙ นวางค์ ฉะนั้น แต่ละนวางค์จะมี ๓ องศา ๒๐ ลิปดา
นวางค์ที่ มีอาณาเขตตั้งแต่ ถึง
๑ ๐ องศา ๓ องศา ๒๐ ลิปดา
๒ ๓ องศา ๒๑ ลิปดา ๖ องศา ๔๐ ลิปดา
๓ ๖ องศา ๔๑ ลิปดา ๑๐ องศา
๔ ๑๐ องศา ๐๑ ลิปดา ๑๓ องศา ๒๐ ลิปดา
๕ ๑๓ องศา ๒๑ ลิปดา ๑๖ องศา ๔๐ ลิปดา
๖. ๑๖ องศา ๔๑ ลิปดา ๒๐ องศา
๗ ๒๐ องศา ๐๑ ลิปดา ๒๓ องศา ๒๐ ลิปดา
๘ ๒๓ องศา ๒๑ ลิปดา ๒๖ องศา ๔๐ ลิปดา
๙ ๒๖ องศา ๔๑ ลิปดา ๓๐ ลิปดา
ฉะนั้น ลัคนาราศีกรกฎ มี ๒๑ องศา ๑๐ ลิปดา จะอยู่ในนวางค์ที่ ๗ ซึ่งมีดาวเสาร์ (๗) เป็นเจ้านวางค์
สรุป ในการพยากรณ์ ลัคนาราศีกรกฎ มีดาวจันทร์(๒) เป็นดาวตนุล้คน์ ก็พยากรณ์เกี่ยวกับดาาวจันทร์(๒) ตามคำกลอนที่ว่า รูปจริตทายจันทร์ จากคำกลอนนี้ มีคำที่สำคัญ(Keyword) จำนวน ๒ คำ คือคำว่า รูป กับคำว่า จริต คำว่า รูปร่าง หมายถึงเป็นคนมีรูปร่างสวยงาม หล่อเหลา เป็นคนมีเสน่ห์ คำว่าจริต หมายถึง เป็นคนมีกิริยามารยาทดี การเดิน การนอน การนั่ง เรียบร้อย น่ารัก ท่านอาจารย์สิงห์โต สุริยาอารักษ์ ท่านกล่าว หากเปรียบกับต้นไม้ ดาวจันทร์(๒) เปรียบเสมือนกับแก่น หมายถึง เป็นคนมีกลิ่นหอม เป็นคนมีเสน่ห์สำหรับเพศตรงข้าม คนที่มีดาวจันทร์(๒) ถึงลัคตาเป็นพยัคฆนาม หมายถึงเสือโคร่ง เป็นคนที่จิตใจไม่แน่นอน บางครั้งก็ดี บางครั้งก็ร้ายอาจจะทำร้ายคนใกล้ชิดได้ ดาวจ้นทร์(๒) เป็นดาวประเภทราคะจริต หมายถึง เป็นคนรักสวยรักงาม ทันแฟชั่น เป็นคนทันสมัยตามยุคตามสมัย แต่ก็ต้องตรวจสอบคุณภาพของดาวจันทร์(๒) ว่าได้ตำแหน่งอะไร ส่งกำลังถึงลัคนนาหรือไม่
.แต่เมื่อตรวจสอบ ลัคนาราศีกรกฎ มี ๒๑ องศา ๑๐ ลิปดา จะอยู่ในนวางค์ที่ ๗ ซึ่งมีดาวเสาร์ (๗) เป็นเจ้านวางค์ ก็ต้องพยากรณ์ว่า ในส่วนลึก ๆ ของจิตใจแล้ว เจ้าของดวงชาตานี้แล้ว มีความรู้สึกนึกคิดและมีอารมณ์แบบดาวเสาร์ #ลักษณะของคนที่ดาวเสาร์ถึงลัคนา จะเป็นคนประเภทบึกบึน อดทน เสมอต้นเสมอปลาย มีความรับผิดชอบสูง เป็นคนขยันขันแข็ง หนักเอาเบาสู้ เป็นคนระมัดระวังตัวดี เป็นคนที่มีความกตัญญูรุ้คุณคนอื่น
.#อุปนิสัย ของคนที่ดาวเสาร์ถึงลัคนา จะเป็นคนประเภทวิตกจริต มีความวิตกกังวลมาก เป็นคนไม่ไว้ใจใครง่าย ขี้ระแวง มีความอาฆาตพยาบาทสูง เจ็บแล้วจำ เป็นนักสู้ที่ประเภทเดินชน ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม
#การอ่านอุปนิส้ยของดาวเสาร์(๗) ที่ถึงลัคนา ว่าเป็นดาวเสาร์ที่ให้คุณหรือให้โทษต้องตรวจสอบตำแหน่งของดาวเสาร์(๗) ในเรือนชาตาทั้งในดวงราศีจักรและดวงนวางค์จักร รวมทั้งพิจารณาถึงดาวต่าง ๆ ที่ส่งผลถึงดาวเสาร์(๗) ด้วย
.ท่านอาจารย์บุศรินทร์ ปัทมาคม ท่านกล่าวว่า ดวงนวางค์จักรมีไว้ประกอบการพยากรณ์ดวงชาตา ให้ละเอียดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังหมายถึงการตีความหมายของคุณภาพของดาวแต่ละดวงว่าดี ๆ นั้น ดีจริงหรือไม่ หรือมาในรูปแบบท่าดีทีเหลว ในทางตรงกันข้ามในดวงราศีจักร อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดี แต่ในดวงนวางค์จักรได้ตำแหน่งทีดี การพยากรณ์ก็จะตรงกันข้าม
.โดยสรุป ดาวในดวงนวางค์จักร มีไว้สำหรับตรวจสอบคุณภาพคุณภาพของดาวแต่ละดวงในดวงราศีจักร กล่าวคือ ดวงราศีจักร เป็นดวงที่บอกถึงลักษณะภายนอกของคนคนนั้น แต่ดาวในดวงนวางค์จักร จะบอกถึงอุปนิสัย จิตใจของเจ้าของดวงชาตานั้น
#นวางค์-ตรียางค์ ตอนที่ ๓
.#หลักโหราศาสตร์ไทย ได้กำหนดไว้ว่าใน 1 ราศีนั้นมี 30 องศา ซอยย่อยออกเป็น 3 ห้องใหญ่เรียกว่า ตรียางค์ และในตรียางค์ ก็แบ่งเป็นห้องย่อยๆอีก 3 ห้องเรียกว่า นวางค์ ดังนั้นสรุปว่า 1 ราศี = 3 ตรียางค์ = 9 นวางค์
เป็นที่มาของคนที่เกิดราศีเดียวกัน ดาวดวงเดียวกัน แต่ทำไมลักษณะนิสัยไม่เหมือนกัน ซึ่งปัจจัยแรกที่จะนำมากล่าวถึงคือ นวางค์ลูกพิษ
นวางค์ลูกพิษ คือจุดเสียในดวงชะตา ความมีตำหนิหรือไม่บริสุทธิ์ของดาวในดวงชะตา แบ่งออกเป็น 3 ลูกพิษ

#หากท่านมีลัคนา-ทักษาสำเร็จ โดย นายสิงห์โต สินสันธิ์เทศ
จะพบว่า 1. ราศีพฤษภ สิงห์ ตุลย์ และกุมภ์ องศาที่ 11- 20 (หรือตรียางค์ที่ 2) ต้องลูกพิษครุฑ หากผู้ใดในดวงชาตากำเนิด ลัคนาต้องลูกพิษครุฑ ก็จะเป็นคนที่แพ้พวกสัตว์ปีก แมลงมีปีก ลมพิษ แพ้ฝุ่น แพ้อากาศ ภัยทางอากาศ คดีความ คุกตะราง ภัยจากราชการ การล้มละลาย

.2. ราศีเมษ กันย์ ธนู และมีน องศาที่ 0 - 10 (หรือตรียางค์ที่ 1) ต้องลูกพิษนาค หากผู้ใดในดวงชาตากำเนิด ลัคนาต้องลูกพิษนาค ก็จะเป็นคนที่น้ำเหลืองไม่ค่อยดี แพ้พวกเกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลาน แมลงคลาน ตัวบุ้ง แมงกะพรุน แมงงุงงิ๊ง ภัยทางน้ำ ตกน้ำ ตกเรือ อะไรที่เกี่ยวกับของเหลว

.3. ราศีเมถุน กรกฎ พิจิก และมังกร พิษสุนัข องศาที่ 21 - 30 (หรือตรียางค์ที่ 3 ) ต้องลูกพิษสุนัข หากผู้ใดในดวงชาตากำเนิด ลัคนาต้องลูกพิษสุนัข ก็จะเป็นคนที่มักถูกนินทาว่าร้ายป้ายสี โดนด่าเป็นอาจิณ อารมณ์หงุดหงิด ดื้อรั้นเหมือนต้องไปฉีดยารอบสะดือ จะมีภัยทางบก พาหนะสี่ล้อ รวมทั้งของมีคม
.ซึ่งการต้องลูกพิษในลัคนาเกิดนั้นก็อาจจะมีผลให้ดาวที่คิดว่าควรจะดี 100 % ถูกทอนกำลังลงไปประมาณ 20%
1. เพื่อให้รู้จักตัวตนหรือลักษณะที่เสียของดวงชะตา ให้พิจารณาว่าลัคนาต้องลูกพิษหรือไม่
2. ใช้ในการวางฤกษ์ยาม เช่น เวลาที่เราวางฤกษ์ หรือ หากลัคนาออกมาเป็นราศีตุลย์ เราก็จะหลบลูกพิษในช่วงเวลาที่อยู่ในช่วงตรียางค์ที่ 2
#นวางค์-ตรียางค์ ตอนที่ ๔ นวางค์ขาด
.

นวางค์ขาด คือนวางค์ลูกที่ ๙ ในราศีกรกฎ ราศีธนู
และราศีมีน
๑. ราศีกรกฎ อยู่ในนวางค์ ๒ ๑ ๔, ๖ ๓ ๕, ๗ ๘ ๕ นวางค์ลูกที่ ๙ คือ ดาว ๕ ต้องพิษสุนัข
๒.ราศีธนู อยู่ในวางค์ ๓ ๖ ๔,๒ ๑ ๔,๖ ๓ ๕ นวางค์ลูกที่ ๙ คือ ดาว ๕ ต้องพิษนาค
๓.ราศีมีน อยู่ในวางค์ ๒ ๑ ๔,๖ ๓ ๕,๗ ๘ ๕ นวางค์ลูกที่ ๙ ดาว ๕ ต้องพิษนาค
.
นวางค์ขาด ถ้ามีดาวเคราะห์เข้าถือครองถือว่า เป็นจุดเบียนทำให้เกิดโทษ ถ้าลัคนาหรือดาวจันทร์(๒) โคจรไปสถิตเกาะกุมในนวางค์ขาดเหล่านี้ ถือว่าเป็นจุดเบียน ดวงชาตาของผู้นั้น จะปั่นป่วนมิรู้วาย มักประสบผลร้ายต่าง ๆ ชีวิตต้องยากลำบาก
.

นวางค์ลูกที่ ๙ ในราศีมีน เป็นนวางค์ลูกสุดท้ายที่ ๑๐๘ แห่งจักรราศีเพียงลูกเดียวเท่านั้น ท่านอาจารย์สิงห์โต สุริยาอาลักษณ์ ท่านให้พิจารณา ๒ ด้าน คือ
๑. หากนวางค์ลูกที่ ๙ ในราศีมีน เป็นวรโคตรนวางค์ เป็นนวางค์ที่ให้คุณ ถ้าหากดาวพฤหัส(๕) ในดวงชาตาเป็นสมโณฤกษ์ จะให้คุณทางด้านเป็นคนดีมีคุณธรรม จริยธรรมที่ดี
๒.หากนวางค์ลูกที่ ๙ ในราศีมีน เป็นเพชฌฆาตฤกษ์ จะเป็นคนประเภทนักบุญใจบาป สามารถพลิกแพลงหาทรัพย์สินเงินทอง โดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่ เข้ากระเป๋าตนเองได้มากมาย
๓.สำหรับนวางค์ลูกที่ ๙ ในราศีกรกฎและราศีธนู ก็ลักษณะเดียวกัน
.ท่านอาจารย์ศิวเมษ ท่านได้กล่าวไว้ว่า โบราณจารย์ท่านห้ามให้ฤกษ์ในนวางค์ขาด เพราะเป็นนวางค์ที่ไม่สมบูรณ์ จะทำกิจการใด ๆ ก็จะไม่ได้มรรคไม่ได้ผลที่สมบูรณ์ ในดวงชาตาคนก็ลักษณะเดียวกัน เช่น หากดาวจันทร์(๒) อยู่ในนวางค์ขาด ดาวจันทร์(๒) ก็ให้โทษแก่ดวงชาตา จะทำให้เป็นคนไม่มีเสน่ห์ รูปร่างไม่สวย กิริยามารยาทไม่ดี เป็นคนมีความคิดฟุ้งซ่าน หากดาวจันทร์(๒) ได้ตำแหน่งเป็นเกษตรภพกดุมภะ ก็จะทำให้เป็นคนที่มีปัญหาทางด้านการเงิน หาเงินไม่พอเลี้ยงชีพ
.วรโคตมนวางค์ หมายถึงดาวดวงใด ในราศีจักร อยู่ในราศีใด เมื่อขับเข้าดวงนวางค์จักรแล้ว ดาวดวงนั้น ก็ยังอยู่ที่ราศีเดิม ดาวที่ได้ ตำแหน่งวรโคตมนวางค์ ท่านบูรพาจารย์ท่านถือว่า เป็นดาวที่ทรงคุณภาพในทางให้คุณแก่ดวงชาตามาก ส่วนจะให้คุณในด้านใด ก็ดูว่าดาวอะไรได้ตำแหน่งวรโคตมนวางค์ ก็จะให้ผลตามความหมายของดาวดวงนั้น เช่น ดาวอาทิตย์(๑) ได้ตำแหน่งวรโคตมนวางค์ ก็จะให้คุณทางด้านเกียรติยศ ชื่อเสียง หากดาวอาทิตย์(๑) เป็นดาวเจ้าเรือนพันธุ ก็จะให้คุณทางด้านเป็นคนโชคดีเกิดตระกูลที่ร่ำรวย
.หากดาวดวงใดที่ได้ตำแหน่งที่ไม่ดี เช่น เป็นประ เป็นนิจ ในดวงราศีจักร แต่เมื่อตรวจสอบในดวงนวางค์จักร ได้ตำแหน่งที่ดีเช่น เป็นเกษตร เป็นอุจ เป็นมหาจักร เป็นราชาโชค ดาวดวงนั้นท่านให้ถือว่า เป็นดาวที่ให้คุณ ในทางตรงกันข้าม หากดาวในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งที่ดี แต่ในนวางค์จักร ได้ตำแหน่งที่ไม่ดี ถือว่าดาวดวงนั้นไม่ดีจริง เป็นแบบท่าดีแต่ทีเหลว
.สรุป ดาวที่ได้ตำแหน่งดี เช่น เป็นเกษตร เป็นอุจ เป็นราชาโชค เป็นมหาจักร ท่านเปรียบเสมือนเป็นเพชรพลอยอันมีค่า ไม่ว่าจะไปอยู่ในเรือนชาตาใด ก็จะให้ผลดีในเรือนชาตานั้น แต่ถ้าดาวดวงใดไปอยู่ในเรือนทุสนะภพ (อริ มรณะ วินาสน์) ก็จะทอนคุณของดาวดวงนั้นลง ดวงชาตาใครมีดาวที่ได้ตำแหน่งดีมาก ๆ ฐานะความเป็นอยู่ก็ดีมาก หากในดวงชาตาใดมีดาวที่ได้ตำแหน่งไม่ดีมาก ก็จะเป็นดวงชาตาที่อาภัพ แต่จะอาภัพเรื่องใดก็ต้องดูว่าดาวดวงนํ้นเป็นดาวเจ้าเรือนอะไร ก็จะอาภัพในเรื่องนั้น ๆ