นิจฟื้น มีหลักเกณฑ์อย่างไร

นิจฟื้น มีหลักเกณฑ์อย่างไร

ท่านอาจารย์บรรเทา จันทรศร(อุตรภัทร์) ท่านกล่าวว่า ดาวเคราะห์ที่ได้ตำแหน่งนิจ จะอยู่ตรงข้ามกับดาวที่ได้ตำแหน่ง อุจจ์ เช่น ดาวอาทิตย์(๑) เป็นอุจที่ราศีเมษ เป็นนิจที่ราศีตุลย์ ดาวจันทร์(๒) เป็นอุจจ์ ราศีพฤษภ เป็นนิจที่ราศีพิจิก  ดาวอังคาร(๓) เป็นอุจจ์ที่ราศีมังกร เป็นนิจที่ราศีกรกฎ ดาวพุธ(๔) เป็นอุจจ์ที่ราศีกันย์ เป็นนิจที่ราศีมีน ดาวพฤหัส(๕) เป็นอุจจ์ที่ราศีกรกฎ เป็นนิจที่ราศีมังกร  ดาวศุกร์(๖) เป็นอุจจ์ที่มีน เป็นนิจที่ราศีกันย์ ดาวเสาร์(๗) เป็นอุจจ์ที่ราศีตุลย์ เป็นนิจที่ราศีเมษ ดาวราหู(๘) เป็นอุจจ์ที่ราศีพิจิก เป็นนิจที่ราศีพฤษภ

ซึ่งความหมายของดาวที่ได้ตำแหน่งนิจ ย่อมให้ความหมายในทางตรงกันข้ามกับดาวที่ได้ตำแหน่งอุจจ์  เช่น อุจจ์ แปลว่าสูง นิจ แปลว่าต่ำ อุจจ์ แปลว่า วาสนา นิจก็แปลว่า ไร้วาสนา อุจจ์ แปลว่า ขยัน นิจแปลว่าขี้เกียจ 

จะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

๑. หากดาวอาทิตย์(๑) ได้ตำแหน่งอุจจ์ อาทิตย์เป็นอุจ เป็นผู้มีทรัพย์ เป็นผู้ชนะศัตรู มีมิตรดี เข้มแข็ง และซื่อสัตย์ เจริญด้วยศิลปะวิทยา อยู่ในศีลธรรม พอใจในความสงบ น้ำใจเมตตากรุณา กำลังกายเข้มแข็ง ความรู้ดีมาก มีโชควาสนาสูง ความรุ่งโรจน์มักขึ้นเร็ว ตกเร็ว ไม่มั่นคงเท่าดาอาทิตย์(๑) ได้ตำแหน่งเกษตร

แต่ถ้าดาวอาทิตย์(๑) ได้ตำแหน่งนิจ ดาวอาทิตย์(๑)เป็นนิจ จะไม่เป็นนิจ  ผู้นั้นจะตกเป็นทาสแก่ตนเอง อาภัพญาติพี่น้อง เป็นที่เกลียดชังแก่ญาติพี่น้อง มีศัตรูมาก และคิดปองร้าย ทั้งเบียดเบียนด้วย ทำกิจการใดมักจะเสียมากกว่าได้ 

๒.หากดาวจันทร์(๒) เป็นอุจจ์    ในราศีพฤษภ ซึ่งเป็นราศีธาตุดิน เป็นธาตุชั้น ๑ อสีติธาตุ เจ้าชาตาเป็นมีทรัพย์ รูปร่างสวยงาม เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป เป็นผู้เชียวชาญและชำนาญทางวรรณคดีไทย เป็นคนมีความขยันขันแข็ง มีอายุยืน และมีบุตรบริวารมาก สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ

 แต่ถ้าหากดาวจันทร์เป็นนิจ   ผู้นั้นจะมีโรคภัย และทรัพย์มักวิบัติ เพศตรงข้ามมักก่อเหตุขึ้น ย่อมเหลวแหลกในเรื่องชู้สาว (มีชื่อเรียกจันทร์เป็นนิจว่า จันทรรู) มีโรคเบียดเบียนประจำตัว ขี้โรค มักได้คู่เป็นหม้าย

๓. หากดาวอังคาร(๓) เป็นอุจจ์ ดาวอังคาร(๓) ได้ตำแหน่งอุจ ในราศีมังกร หากส่งกำลังถึงลัคนา จะทำให้เจ้าชาตาเป็นมีความสามารถในการติดต่อเจรจา สนใจศึกษาและค้นคว้าหาความรู้ เป็นคนมีโทสะร้าย แต่หายเร็ว เป็นคนค่อนข้างเจ้ายศเจ้าอย่าง ในชีวิตจะมีเจ็บไข้ได้ป่วยมากอย่างน้อยหนึ่งครั้ง หากดาวอังคาร(๓) ได้ตำแหน่งนิจ ในราศีกรกฎ จะเป็นคนค่อนข้างจะขี้เกียจ หาทรัพย์ได้ยากแถมเก็บไว้ไม่อยู่ ส่วนมากมักจะเป็นลูกน้องคนอื่น หากมีบริวาวาร พวกพ้องมักจะเป็นศัตรู ระวังจะมีปัญหาทางด้านศีลธรรมในทางชู้สาว ชีวิตจะยากลำบากเมื่อสูงวัย  

๔. ดาวพุธ(๔) ได้ตำแหน่งอุจจ์ เป็นคนรูปสวยรวยทรัพย์ มีวิชาความรู้ พอใจในการศึกษา ร่าเริงแจ่มใส เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป และเป็นคนมีโชคดีเสมอ มีบุตรบริวาร คู่ครองและคนรักมาก ชีวิตมีความสุข  หากดาวดาวพุธเป็นนิจ   เจ้าชาตามีนิสัยเป็นพาล พูดไม่มีมรรยาท มักขู่เข็ญ และทะเลาะกับญาติตนเองอยู่เสมอ และญาติกลับเป็นศัตรู

๕.ดาวพฤหัส(๕) .ดาวพฤหัส(๕) ได้ตำแหน่ง อุจ ในราศีกรกฎ ราศีกรกฎเป็นราศีธาตุน้ำ ดาวพฤหัส(๕) เป็นดาวธาตุดิน เมื่อมาอยู่ในราศีกรกฎ ดาวพฤหัส(๕) ในราศีกรกฎจึงเป็นธาตุชั้นที่ ๒ เป็นธาตุคู่มิตร พฤหัสเป็นอุจจ์ ให้คุณทางวิชาความรู้ มีความรู้ความสามารถสูง เชี่ยวชาญ รับราชการจะได้ดี เหมาะที่จะเป็นครู อาจารย์ แพทย์  วิศวะกร  สถาปนิก 

หากดาวพฤหัส(๕) เป็นนิจในราศีมังกร   ทำให้เป็นคนเขลาปัญญา สติปัญญาในการศึกษาเล่าเรียนไม่ค่อยดี หรือจะมีโอกาสในเรียนรู้ด้วยความยากลำบากกว่าคนอื่น สำเร็จได้ยาก มักมีสติปัญญาไม่ค่อยเฉียบแหลม และจะเสียนิสัยเพราะปากพล่อย เจ้าชาตามักพูดจาไม่น่าฟัง จะมีโทษเพราะปาก หรือมีโอฐภัย  

๖. ดาวศุกร์(๖) ดาวศุกร์(๖) เป็นอุจจ์ ในราศีมีน ดาวศุกร์(๖) เป็นราศีธาตุน้ำ อยู่ในราศีมีนเป็นราศีธาตุน้ำ เป็นอสีติธาตุ ให้คุณสูง เมื่อได้ตำแหน่งเป็นอุจ ทำให้เจ้าชาตาจะเป็นคนมีทรัพย์สมบัติ มีความรู้ มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นคนมีกิริยาสุภาพ วาจาอ่อนหวานไพเราะ มีน้ำใจเมตตากรุณา เป็นคนมีอายุยืน บางคนอาจจะตกอยู่ในอิทธิพลของการเงิน คือเป็นคนเห็นเงินเป็นพระเจ้า คิดว่าเงินสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด บางคนอาจจะเป็นคนเจ้าชู้ เป็นคนมีความต้องการทางเพศสูงมาก ถ้าเจอคู่ที่ศีลไม่เสมอกันหรือความต้องการไม่สมดุลกัน โอกาสที่จะเลิกร้างกันก็มีสูง  หากดาวศุกร์(๖) เป็นนิจ ในราศีกันย์ ซึ่งเป็นราศีธาตุดิน เป็นธาตุคู่มิตรกับดาวศุกร์(๖) ดาวที่ได้ตำแหน่งนิจ เป็นดาวที่เสื่อมผล อับแสงไม่มีพลัง คนที่มีดาวที่ได้ตำแหน่งหลายดวง ถือว่าเป็นดวงอับ หรือรุ่งเรืองไม่นานกลับตกอับ การดำเนินชีวิตไม่ราบรื่น คนที่ได้ดาวศุกร์(๖) เป็นนิจ จะเป็นคนอาภัพด้านความรัก อาภัพคู่ครอง แพ้คู่ครอง เป็นคนขาดสมรรถภาพทางเพศ แถมเป็นคนที่มีกิริยามารยาทไม่ดีไม่สุภาพ และเป็นคนมีทรัพย์น้อย หากมีทรัพย์จะเก็บไว้ไม่อยู่ ต้องพึ่งพาผู้อื่น จะเป็นคนที่มีอำนาจจิตหรือความเข้มแข็งน้อยกว่าคู่ครองของตน มักมีบุตรอ่อนแอ หรือบุตรจะเลี้ยงยาก

๗. ดาวเสาร์(๗)  เสาร์เป็นอุจ เป็นคนมีน้ำใจกล้าแข็ง มักมีอำนาจวาสนา ชนะศัตรู มีอายุยืนนาน ได้บุตรบริวารดี ได้รับการอุดหนุน เจือจุนเป็นอย่างดี ย่อมเป็นใหญ่ได้ จะชำนาญในศิลปกรรม(ฝีมือดี) มีเมตตากรุณา ร่างอวบ ถ้าเป็นหญิงจงรักในสามีดี จะสมบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ หากดาวเสาร์(๗) เป็นนิจ  ผู้นั้นใช้จ่ายเก่ง พึ่งพาอาศัยญาติมิได้ เผ่าพันธ์มักจะจากไปหรือวิบัติ จะถูกใส่ความหรือเข้าใจผิด เสียทรัพย์บ่อย

๘. ดาวราหู(๘)   ราหูเป็นอุจ จะเจริญด้วยทรัพย์สมบัติ เป็นคนมีน้ำใจกล้าแข็ง มักมีอำนาจวาสนา ชนะศัตรู มีอายุยืนนาน ได้บุตรบริวารดี ได้รับการอุดหนุน เจือจุนเป็นอย่างดี ย่อมเป็นใหญ่ได้ จะชำนาญในศิลปกรรม(ฝีมือดี) มีเมตตากรุณา ร่างอวบ ถ้าเป็นหญิงจงรักในสามีดี จะสมบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ ดาวราหู(๘)  จะได้ตำแหน่ง มหาอุจ  เจ้าชาตาจะเป็นคนมีทรัพย์สมบัติมาก จะเป็นไปทีใดจะมีคนต้อนรับ เป็นคนมีอำนาจวาสนาดี  มีลูกที่ดี เป็นคนมีสุขภาพแข็งแรง ทำให้มีอายุยืน เป็นคนสามารถเอาชนะศัตรู ดาวราหู(๘) ได้ตำแหน่งนิจ   ส่วนมากเจ้าชาตามักจะขาดความเข้มแข็ง เป็นคนมีวาสนาน้อย สุขภาพไม่แข็งแรง เดือดร้อนที่อยู่ เป็นคดีถ้อยความ อาจได้รับโทษกักขังจองจำ ใจน้อย ขลาดต่อการสารภาพผิด มักต้องย้ายที่อยู่เสมอ เจ้าชาตาจะขาดลัษณะการเป็นผู้นำที่ดี ส่วนมากเจ้าชาตามักจะขาดความเข้มแข็ง เป็นคนมีวาสนาน้อย สุขภาพไม่แข็งแรง เดือดร้อนที่อยู่ เป็นคดีถ้อยความ อาจได้รับโทษกักขังจองจำ ใจน้อย ขลาดต่อการสารภาพผิด มักต้องย้ายที่อยู่เสมอ เจ้าชาตาจะขาด ลัษณะการเป็นผู้นำที่ดี

#ท่านอาจารย์สิงห์โต สุริยอารักษ์ ท่านได้กล่าวไว้ในหนังสือโหราศาสตร์ไทยชั้นสูง ว่า ดาวเคราะห์ที่ได้ตำแหน่งนิจ เป็นตำแหน่งที่ตรงข้ามกับอุจ ฉะนั้น ดาวเคราะห์ที่ได้ตำแหน่งนิจ หมายถึงดาวเคราะห์ดวงนั้น อยู่ไกลโลก กำลังของดาวดวงนั้น ส่งกำลังไม่ถึงลัคนา แต่เมื่อดาวเคราะห์นิจฟื้น จะทำใหัเจ้าชาตาประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูง ตามอำนาจของดวงดาวและเรือนชาตาของผู้นั้น

 

. #การที่ดาวเคราะห์ที่ได้ตำแหน่งนิจจะฟื้น สามารถเกิดขึ้นได้หลายประการ แต่ปัจจัยที่สำคัญ คือดาวเคราะห์ดวงนั้น ต้องเป็น ๑,๔,๗ และ ๑๐ จากดาวเคราะห์ที่เป็นนิจ ดังนี้

. ๑. ดาวเคราะห์เจ้าเรือนที่ดาวนิจสถิตอยู่ เช่น ดาวอาทิตย์(๑) อยู่ราศีตุลย์เป็นนิจ ดาวเคราะห์ที่จะช่วยให้ดาวอาทิตย์(๑) ที่เป็นนิจฟื้น คือดาวศุกร์(๖) ซึ่งเป็นดาวเจ้าเรือนราศี ตุลย์ หากดาวศุกร์(๖) ได้ตำแหน่งที่ดี จะทำให้ดาวอาทิตย์(๑) ฟื้นได้

.

๒.ดาวเคราะห์เจ้าของเรือนตรงข้ามที่ดาวเคราะห์นิจสถิตอยู่ เช่น ดาวเสาร์(๗) อยู่ราศีเมษ ราศีตรงข้ามกับราศีเมษคือราศีตุลย์ ดาวศุกร์(๖) ดาวเจ้าเรือนราศีตุลย์จะช่วยให้ดาวเสาร์ (๗) ที่เป็นนิจฟืันได้ ในกรณีที่ดาวศุกร์(๖) ได้ตำแหน่งดี

.๓.ดาวเคราะห์ที่ได้ตำแหน่งอุจในราศีที่ดาวเคราะห์นิจสถิตอยู่ เช่น ดาวอาทิตย์(๑) อยู่ราศีตุลย์ ดาวเคราะห์ที่ได้ตำแหน่งอุจในราศีตุลย์คือ ดาวเสาร์(๗) จึงช่วยให้ดาวอาทิตย์ที่เป็นนิจฟื้นได้ หากดาวเสาร์(๗) ได้ตำแหน่งอุจจ์

.๔.กฎเกณฑ์ดังกล่าว ดาวเคราะห์ที่จะช่วยให้ดาวเคราะห์นิจฟื้น จะต้องมีปัจจัยเป็น ๑,๔,๗ และ ๑๐ จากดาวเคราะห์ที่เป็นนิจ หรือเป็น ๑,๔,๗ และ ๑๐ จากดาวจันทร์(๒) ทั้งในดวงราศีจักรและดวงนวางค์จักร

จากดวงชาตาด้านบน ดาวเสาร์(๗) เป็น ๔ จากดาวอาทิตย์(๑) และจากดาวจ้นทร์ ที่เป็นนิจ จะช่วยให้ดาวอาทิตย์ฟื้นได้

.๕.ดาวเคราะห์ที่เป็นนิจฟื้นจะให้คุณกับเจ้าชาตาตามอำนาจดวงดาวและเจ้าเรือนชาตา จะทำให้เจ้าชาตามีประสบความสำเร็จในชีวิต มีความสุขสมบูรณ์ดุจพระราชา และจะประสบความสำเร็จทางราชการและการเมือง

.๖. ดาวพฤหัส(๕) เป็นนิจในดวงราศีจักร แต่ได้ตำแหน่ง อุจจ์ ในดวงนวางค์จักร เรียกว่า ดาวพฤหัส(๕) เป็นนิจพังคะราชาโชค คือความสัมพันธ์ของโยคที่ให้กำลังแรง คำว่า นิจพังคะ หมายถึงนิจฟื้นคืนเป็นอุจ มีคุณภาพเหมือนได้ตำแหน่งเป็นอุจ และราชาโชค ดาวเคราะห์ที่เป็นนิจพังคะโชค คือดาวเคราะห์ที่ได้ตำแหน่งนิจในดวงราศีจักร แต่เมื่อตรวจสอบแล้วว่า ได้ตำแหน่งมีคุณภาพเป็นอุจ ในดวงนวางค์จักร ดาวเคราะห์ดวงนั้น เรียกว่า นิจพังคะโชค ให้คุณกับเจ้าชาตามาก ดุจเป็นราชาโชค ผสมกับอุจจ์

 ดาวแต่ละดวงที่ได้ตำแหน่งนิจพังคะราชาโชค จะมีความหมายดังต่อไปนี้

๖.๑ ดาวอาทิตย์(๑) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น จะประสบความสำเร็จ ความก้าวหน้าในชีวิต และมีความสุขดุจพระราชา

๖.๒ ดาวจันทร์(๒) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น จะมีความเจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จในชีวิต

๖.๓ ดาวอังคาร(๓) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น จะประสบความสำเร็จทางกสิกรรม จะได้ทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ โภคทรัพย์

๖.๔ ดาวพุธ(๔) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น ชีวิตในตอนต้น จะไม่ดี แต่ตอนปลายจะความเจริญก้าวหน้า

๖.๕ ดาวพฤหัส(๕) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น จะได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชูดุจพระราชา จะอุดมสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ จะมีความสำเร็จในการศึกษา จะเป็นคนมีชื่อเสียง จะร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง จะเป็นใหญ่

๖.๖ ดาวศุกร์(๖) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น จะประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ ประสบความสำเร็จในธุรกิจการค้า จะร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง

๖.๗ ดาวเสาร์(๗) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น ในการดำเนินชีวิตจะมีศัตรู ค่อยเบียดเบียน ระวังทรัพย์สินเงินอาจจะสูญหาย อาจจะต้องพลัดพรากจากบ้านเกิดไปอยู่ต่างประเทศ ชีวิตในบั้นปลายจะมีความสุข

.๗. ดาวเคราะห์ที่ได้ตำแหน่งนิจ จะไม่เป็นนิจ โดยมีการจำกัดองศา ดังนี้ ดังนี้

ดาวอาทิตย์(๑) เป็นนิจ มีองศาจำกัด 19 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 10 องศา

ดาวจันทร์(๒) เป็นนิจ มีองศาจำกัด 3 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 19 องศา

ดาวอังคาร(๓)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 28 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 12 องศา

ดาวพุธ(๔)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 15 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกิน 15 องศาขึ้นไป

ดาวพฤหัส(๕)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 15 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 15 องศาขึ้นไป

ดาวศุกร์(๖)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 27 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 17 องศา

ดาวเสาร์(๗)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 21 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 6 องศา

ดาวราหู(๘)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 1 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 8 องศา

#ดาวเคราะห์ที่ได้ตำแหน่งนิจ จะมีการจำกัดองศา ดังนี้ ดังนี้

ดาวอาทิตย์(๑) เป็นนิจ มีองศาจำกัด 19 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 10 องศา ดาวอาทิตย์(๑) จะไม่เป็นนิจ เมื่อมี ๑๐ องศา ถึง ๑๙ องศา นอกนั้นเป็นนิจ 

ดาวจันทร์(๒) เป็นนิจ มีองศาจำกัด 3 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 19 องศา ดาวจันทร์(๒) จะเป็นนิจ เมื่อมี ๓ องศา ถึง ๑๙ องศา นอกนั้น ไม่เป็นนิจ  

ดาวอังคาร(๓)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 28 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 12 องศา  ดาวอังคาร(๓) ไม่เป็นนิจ เมื่อมี ๑๒ องศา ถึง ๒๘ องศา นอกนั้น เป็นนิจ

ดาวพุธ(๔)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 15 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกิน 15 องศาขึ้นไป ดาวพุธ ไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกิน ๑๕ องศา ขึ้นไป นอกนั้น เป็นนิจ

ดาวพฤหัส(๕)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 15 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 15 องศาขึ้นไป ดาวพฤหัส(๕) ไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกิน ๑๕ องศา ขึ้นไป นอกนั้น เป็นนิจ

ดาวศุกร์(๖)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 27 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 17 องศา ดาวศุกร์(๖) จะไม่เป็นนิจ เมื่อมี ๑๗ องศา ถึง ๒๗ องศา นอกนั้น เป็นนิจ 

ดาวเสาร์(๗)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 21 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 6 องศา ดาวเสาร์(๗) จะไม่เป็นนิจ เมื่อมี ๖ องศา ถึง ๒๑ องศา นอกนั้นเป็นนิจ

ดาวราหู(๘)เป็นนิจ มีองศาจำกัด 1 องศา จะไม่เป็นนิจ เมื่อมีองศาเกินกว่า 8 องศา ดาวราหู(๘) จะไม่เป็นนิจ เมื่อมี ๙ องศา ถึง ๓๐ องศา นอกนั้นเป็นนิจ (๑ - ๘ องศา เป็นนิจ) 

 คำว่า นิจจะพังคะราชาโชค คือความสัมพันธ์ของโยคที่ให้กำลังแรง คำว่า นิจจะพังคะ หมายถึงนิจฟื้นคืนเป็นอุจ มีคุณภาพเหมือนได้ตำแหน่งเป็นอุจ และราชาโชค ดาวเคราะห์ที่เป็นนิจพังคะโชค คือดาวเคราะห์ที่ได้ตำแหน่งนิจในดวงราศีจักร แต่เมื่อตรวจสอบแล้วว่า ได้ตำแหน่งมีคุณภาพเป็นอุจ ในดวงนวางค์จักร ดาวเคราะห์ดวงนั้น เรียกว่า นิจพังคะโชค ให้คุณกับเจ้าชาตามาก ดุจเป็นราชาโชค 

 ดาวแต่ละดวงที่ได้ตำแหน่งนิจพังคะราชาโชค จะมีความหมายดังต่อไปนี้

๖.๑ ดาวอาทิตย์(๑) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น จะประสบความสำเร็จ ความก้าวหน้าในชีวิต และมีความสุขดุจพระราชา

๖.๒ ดาวจันทร์(๒) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น จะมีความเจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จในชีวิต

๖.๓ ดาวอังคาร(๓) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น จะประสบความสำเร็จทางกสิกรรม จะได้ทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ โภคทรัพย์

๖.๔ ดาวพุธ(๔) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น ชีวิตในตอนต้น จะไม่ดี แต่ตอนปลายจะความเจริญก้าวหน้า

๖.๕ ดาวพฤหัส(๕) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น จะได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชูดุจพระราชา จะอุดมสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ จะมีความสำเร็จในการศึกษา จะเป็นคนมีชื่อเสียง จะร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง จะเป็นใหญ่

๖.๖ ดาวศุกร์(๖) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น จะประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ ประสบความสำเร็จในธุรกิจการค้า จะร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง

๖.๗ ดาวเสาร์(๗) เป็นนิจในดวงราศีจักร ได้ตำแหน่งอุจในดวงนวางค์จักร บุคคลนั้น ในการดำเนินชีวิตจะมีศัตรู ค่อยเบียดเบียน ระวังทรัพย์สินเงินอาจจะสูญหาย อาจจะต้องพลัดพรากจากบ้านเกิดไปอยู่ต่างประเทศ ชีวิตในบั้นปลายจะมีความสุข

.

Read more

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวเสาร์(๗)

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวเสาร์(๗)

ในการพยากรณ์ดวงชาตาตามหลักโหราศาสตร์ไทย จะมีดาวนพเคราะห์จำนวน ๑๐ ดวง โดยแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือดาวศุภะเคราะห์ มีดาวจันทร์(๒) ดาวพุธ(๔) ดาวศุกร์(๖) ดาวพฤหัส(๕)  ดาวบาปเคราะห์ มีดาวอาทิตย์(๑) ดาวอังคาร(๓) ดาวเสาร์(๗) ดาวราหู(๘) ดาวที่เป็นได้ทั้งศุภะเคราะห์และบาปเคราะห์ มีดาวเกตุ(๙) และดาวมฤตยู(๐)  จะเห็นได้ว่าดาวพระเสาร์(๗) เป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ ให้

ดาวที่คุ้มโทษได้ มีดาวอะไรบ้าง

ดาวที่คุ้มโทษได้ มีดาวอะไรบ้าง

ในราศีทั้ง ๑๒ ราศี  จะแบ่งออกเป็น ๔ ประเภท คือ ๑. ปัศวะราศี  ประเภทสัตว์บก ๔ เท้า มีราศีเมษ ราศีพฤษภ และราศีสิงห์  ๒. นระราศี ประเภทมนุษย์ มีราศีเมถุน ราศีกันย์ ราศีตุลย์ ราศีธนู และราศีกุมภ์  ๓. อัมพุราศี  ประเภทสัตว์น้ำมี

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวศุกร์(๖)

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวศุกร์(๖)

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวศุกร์  (Venus) ดาวศุกร์(๖) จากคำกลอนที่ท่านบูรพาจารย์ได้กล่าวว่า “กิเลสสมบัติทายศุกร์” มีคำที่เป็นคำหลัก( keyword ) อยู่สองคำ คือคำว่า กิเลส กับคำว่าสมบัติ .คำว่ากิเลส หมายถึง ความรัก ความสวยงาม รสนิยมทางด้านศิ

คุณ-โทษของดาวที่เดินวิกลคติ

คุณ-โทษของดาวที่เดินวิกลคติ

ดาวที่เดินผิดปกติคือ  เรียกว่า วิกลคติ   ความหมายของดาวที่เดินผิดปกติโดยปกติแล้วการโคจร หรือการเดิน ของดวงดาวในทางโหราศาสตร์นั้น จะเดินตามระยะเวลาที่ได้มีการ คํานวณเอาไว้แต่ทว่า ในการโคจรดวงดาว จะมีภาวะบางอย่างที่ทําให้ การโคจรแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งในทางโหราศาสตร์ไทยจะกล่าวถ ึงการเดิน แบบผิ