ข้อแตกระหว่าง ดาวเกตุและดาวมฤตยู

ข้อแตกระหว่าง ดาวเกตุและดาวมฤตยู

ข้อแตกต่างระหว่างดาวเกตุ(๙) และดาวมฤตยู (๐)

.๑. ดาวเกตุ (๙)

๑.๑ ดาวเกตุ(๙) คำนิยาม “ทายอายุยืนอยู่ทายเกตุ” ตามลักษณะภายนอกดวงชาตาที่ดาวเกตุถึงลัคนา หมายถึงดวงชาตาที่จะมีอายุยืนยาว นิ้วยาว มือยาว เท้ายาว หูยาว กล่าวง่าย ๆ ก็คือดาวเกตุอยู่ในเรือนเกณฑ์(เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ด สิบจากลัคนาหรือจากจันทร์) ก็ทำให้ภพนั้นมีอวัยวะยาว

.แต่ถ้าเป็นลักษณะภายในเป็นดาวประเภทวิญญาณธาตุ หมายถึง จิต วิญญาณ ญาณหรือสรรพวิชาลี้ลับต่าง ๆ ฉะนั้น บุคคลใดมีดาวเกตุอยู่ในเรือนเกณฑ์ (เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ด สิบจากลัคนาหรือจากจันทร์) มักจะมีจิตเหนือคนอื่น มีญาณพิเศษ (Sixsense) สามารถคาดเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ มีความเชียวชาญในวิชาลี้ลับต่าง ๆ เช่น ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ วิญญาณศาสตร์ หรือจิตศาสตร์ อย่างใดอย่างหนึ่ง

.อีกประการหนึ่ง ดาวเกตุเป็นดาวที่เกินความพอดี จะทำให้เกิดความยุ่งยากและวุ่นวาย เมื่อดาวเกตุไปสถิตก็ทำให้ดาวเกษตรของเจ้าเรือนราศีนั้นกลายเป็นดาววิญญาณไปด้วย เช่น เกตุกุมลัคน์หรือร่วมราศีกับดาวเจ้าเรือนปัตนิ จะเป็นคนมีความรักแบบพิศดาร ความต้องการทางเพศสูง เช่นคนที่เป็นเกย์คิง เกย์ควีน เลสเบี้ยน พวกรักร่วมเพศ หญิงชายประเภทสอง ท่านอาจารย์ประทีปแห่งวัดระฆังโฆสิตารามท่านกล่าวว่า ดาวเกตุอยู่ในภพลาภะ ท่านว่าชาตานั้นคุ้มภัย คือไม่ตายโหง ท่านเจ้าคุณสุเมธีวรคุณแห่งวัดเกาะหลัก จังหวัประจวบคีรีขันธ์ ท่านว่าดาวเกตุอยู่ในภพปุตตะ ท่านว่าเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ ชอบเอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่ มีความต้องการไม่แน่นอนเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ๆ เป็นที่น่าเบื่อสำหรับคนใกล้ชิด ท่านอาจารย์บรรเทา จันทรศร(อุตรภัทร์) ท่านว่า ดาวเกตุอยู่ในภพอริ จากลัคนา เป็นชาตารวยหนึ้ เป็นคนหาเจ้าหนี้ได้เก่ง มีทักษะและความสามารถในการยิบยืมเงินทองคนอื่น โดยที่ตัวเองไม่ได้มีหลักฐานและฐานะอะไรเลย แต่สามารถหาเจ้าหนี้ได้เป็นล้าน ๆ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดาวเกตุอยู่ในภพกดุมภะจากลัคนาเป็นคนหมุนเงินเก่ง ดาวเกตุเป็นวิญญาณธาตุเมื่อมาอยู่เรือนการเงิน ก็ทำให้เงินติดปีก เงินหมุนเวียนตลอดเวลาได้เงินมาก็จ่ายไป แม้แต่ทรัพย์สินอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน

.๑.๒ ดาวเกตุ(๙) ทับลัคนาและเล็งลัคนา ต่างกันอย่างไร

ดาวเกตุ(๙) ทับลัคนา จะให้ผลกับเจ้าชาตา ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าอยู่ในเรื่อนที่ ๗ ภพปัตนิ จะให้ผล ๕๐ เปอร์เซ็นต์

ลักษณะนิสัยของดาวเกตุ(๙) เป็นสัญลักษณ์ของดาวที่มีอิทธิพลเกิน ๆ กว่าคนปกติทั่วไป เป็นคนประเภทอยากรู้อยากเห็น ชอบแสดงออก ชอบโอ้อวด ชอบให้คนอื่นยกย่องว่าเก่ง ชอบแต่งตัวแบบล้ำสมัยสีสันฉูดฉาดโดดเด่นสะดุดตา

.

คนที่ดาวเกตุ(๙) ทับลัคนา จะมีทัศนคติที่ดีต่อชาวต่างชาติ ถูกชาตากับชาวต่างชาติ สามารถทำงานร่วมกับชาวต่างชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนิยมชาวต่างชาติมากกว่าคนชาติเดียวกัน หากมีดาวเกตุ(๙) เล็งลัคนา เจ้าชาตาจะสนใจเพศตรงข้ามที่เป็นคนต่างชาติมากกว่าคนชาติเดียวกัน สามารถแต่งงาน หรือไปอยู่หรือไปทำงานในต่างประเทศอย่างมีความสุข แต่ถ้าหากดาวเกตุ(๙) ตกในทุสนะภพ(อริ มรณะ วินาสน์) เจ้าชาตาจะมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อชาวต่างชาติ

.ดังนั้น เมื่อดาวเกตุ(๙) เล็งลัคนา อยู่ในภพปัตนิ เจ้าชาตาชอบคนที่มีบุคลิกและอุปนิสัยแบบคนต่างชาติมากกว่าคนชาติเดียวกัน หากอยู่ในวัยรุ่นอายุไม่เกิน ๓๐ ปี จะมีลักษณะนิสัยแสดงออกไปทางล้น ๆ หรือ ชอบซ่า หรือ ชอบทำตัวเด่นกว่าคนอื่น แต่ถ้าอายุเกิน ๓๐ ปีไปแล้ว ลักษณะนิสัยจะเปลี่ยนไปเป็นคนสมถะ เป็นคนสงบเสงี่ยม ชอบของเก่าของโบราณ จะถูกชาตากับคนสูงวัย หรือพระสงฆ์ที่สูงวัย

.จุดเด่นของเจ้าชาตาที่ดาวเกตุ(๙)ถึงลัคนา นอกจากทำให้เจ้าชาตามีความต้องการทางเพศสูงแล้ว ยังมีความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์ สามารถประดิษฐ์สร้างสรรค์ความสวยงามแบบแปลกและพิสดารมากกว่าพวกที่ดาวศุกร์(๖)ถึงลัคนา คนที่ดาวเกตุ(๙) จะมีอารมณ์แบบคน ๒ เพศ มีความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งสวยงามที่ไม่เหมือนใคร แบบแปลก ๆ พิสดาร เช่น การออกแบบเครื่องแต่งกาย การออกแบบทรงผม

.ดาวเกตุ(๙) อยู่ในภพปัตนิ ชีวิตคู่ มักจะไม่ค่อยมีความสุข มักจะได้คู่ครองที่อายุมากกว่า จึงทำให้ชีวิตรักในบั้นปลายหลังอายุ ๓๐ ปีไปแล้วไม่ค่อยจะมีความสุขเหมือนตอนวัยรุ่น ส่วนมากมักจะแต่งงานกับคนต่างชาติมากกว่าคนชาติเดียวกัน เพราะคนชาติเดียวกันไม่ถูกใจเจ้าชาตา อีกประการหนึ่ง ดาวเกตุอยู่ในภพปัตนิ ในวัยหนุ่มสาวเป็นคนชอบทำตัวเด่น ชอบผู้ชายที่เด่น คนในวัยเดียวกันก็ไม่ค่อยถูกใจ จึงเลือกคนที่สูงวัยกว่าตน แต่ถ้าไม่เจอคนถูกใจ อาจจะเป็นคนไร้คู่ก็ได้

.ดาวเกตุ(๙) เล็งลัคนา ก็คล้าย ๆ กับดาวศุกร์(๖) เล็งลัคนา เป็นพินทุบาทว์ แต่จะมีอิทธิพลมากกว่า ดาวเกตุ(๙) ร่วมราศีกับดาวอะไรก็แล้วแต่ในภพปัตนิ จะมีแนวโน้มทำให้ความรักเร้าร้อน ค่อนข้างวิปริต โดยเฉพาะหากร่วมกับดาวบาปเคราะห์

ดาวมฤตยู(๐) ทับลัคนาและเล็งลัคนาต่างกันอย่างไร

.๒.๑ ดาวมฤตยู(๐) หากอยู่ในเรือนเกณฑ์ (เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ด และสิบจากลัคนาหรือจากจันทร์) จะเป็นไปตามคำจำกัดความที่ว่า “ ภัยอาเพททายมฤตยู” ซึ่งหมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น

ดาวมฤตยู(๐) เป็นดาวพระเคราะห์ดวงหนึ่ง เนื่องจากเป็นดาวที่มีมวล มีสาร มีวงโคจรเป็นของตนเองและอยู่ในระบบสุริยจักรวาล แต่เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เนื่องจากอยู่ไกลจากโลกเรามาก เมื่ออยู่ในระบบสุริยจักรวาลและเป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง จึงเป็นดาวที่แสดงคุณและโทษแก่คน สัตว์และสิ่งของในโลกนี้ เพราะเป็นดาวเคราะห์ทึ่คนเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า การให้คุณและการให้โทษจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน กระทันหัน ไม่มีที่มาและที่ไป

.สรุป ดาวมฤตยู(๐) จะมีลักษณะดังต่อไปนี้ คือดาวมฤตยู (๐) เป็นดาวบาปเคราะห์ จึงเป็นดาวมีความแปลกประหลาด มหัศจรรย์ น่าตื่นเต้น ตกใจ สิ่งใหม่ๆ ทันสมัย แปลกแหวกแนว กระทันหัน ดาวมฤตยู (๐) เป็นสัญญลักษณ์ ของความไม่ครบถ้วน ความขาด ความหงุดหงิด โกรษง่าย ภัยอาเภท ลี้ลับซับซ่อน ซึ่งตรงกันข้ามกับดาวเกตุ(๙) ซึ่งเป็นดาวที่เกินพอดี ดาวมฤตยู (๐) หมายถึงนักวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมสิ่งใหม่ๆ การปฎิวัติ การเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เป็นธาตุสุญกาศแทนด้วยเลข 0 ดาวมฤตยู (๐) แผ่อิทธิพลถึงลัคนาหรือเจ้าเรือนลัคนา มักปํนคนอาภัพ ต้องเหนื่อยยากตรากตรำลำบาก มักมีชีวิตที่ต้องรับใช้ผู้อื่น ชีวิตส่วนตัวมักลุ่มๆดอนๆ บางครั้งรุ่งโรจน์บางครั้งตกต่ำไม่คงทน ปฎิภาณไหวพริบจะแก่กว่าอายุจริง ชอบคบคนที่อายุมากกว่าตน มีญานวิเศษ มีญาณลางสังหรณ์และพลังจิตสูง สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ สามารถอ่านใจคนอื่นได้ถูกต้องแม่นยำ

.๒.๒ ดาวมฤตยู(๐) เป็นคนที่มีความสามารถในการหยั่งรู้จิตใจคนอื่นได้โดยอัตนโนมัต จึงเป็นสาเหตุให้คนที่มีดาวมฤตยู(๐) ถึงลัคนา ทั้งในทางทับลัคนาและเล็งลัคนา จะเป็นคนที่คบคนอื่นยาก แต่หากได้คบใครแล้วจะคบคนนั้นอย่างมั่นคงและจริงใจ เนื่องจากเป็นคนที่มีญาณสังหรณ์แม่นยำ ทำให้เป็นคนช่างติและขี้รำคาญ มักจะรู้สึกหงุดหงิดกับคนใกล้ชิด เนื่องจากมองเห็นจุดอ่อนและปมด้อยหรือข้อเสียของคนอื่น จึงทำให้มีความรู้สึกว่าใคร ๆ ก็ไม่ดี ไม่เหมาะสม ทำให้เป็นคนเลือกมาก สุดท้ายเจอคู้แท้ยาก ไม่ได้แต่งงานสักที

.คนที่ดาวมฤตยู(๐) กุมลัคนา บางบูรพาจารย์ท่านบอกว่า เป็นดวงกินคู่สมรส หากไม่ตายจากกันก็อาจจะต้องเลิกราจากกัน จุดสำคัญก็คือคนที่ดาวมฤตยู(๐) กุมลัคนา จะเป็นคนขี้หงุดหงิดและเอาใจยาก เป็นคนเรื่องมาก ช่างติ มองเห็นข้อเสียของคนอื่น ทำให้เป็นคนมีมาตรฐานสูงในการเลือกคู่ จะเป็นคนเลือกมาก ทำให้มีโอกาสในการแต่งงานยาก เมื่อแต่งงานแล้ว เนื่องจากเป็นคนมีญาณสังหรณ์สูง รู้ทันคู่ไปหมดทุกเรื่อง ทำให้คนรักหรือคู่ครองหงุดหงิด รำคาญจนทนไม่ไหว ทำให้ต้องเลิกร้างกันไป หรือตายจากกันไป หากมีดาวมฤตยู(๐) เล็งลัคนา และมีดาวศุกร์(๖) ได้เกณฑ์ที่ดี คู่ครองหรือคนรักมักจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ หากดาวมฤตยู(๐) ทับลัคนา มีดาวศุกร์(๖) อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดี มีโอกาสทีจะเลิกร้างจากคู่ได้ง่าย

.๒.๓ วิธีแก้ดวง

.๒.๓.๑ คนที่ดาวมฤตยู(๐) ทับลัคนา ควรเลือกคบคนที่มีอายุมากมากกว่า มีวุฒิภาวะทางอารมณ์มั่นคง มีจิตใจหนักแน่น หรือเคยผ่านการมีคู่มาก่อน จึงจะสามารถทนต่ออุปนิสัยขี้หงุดหงิด มากเรื่อง ของเจ้าชาตาที่มีดาวมฤตยูทับลัคนาได้

.

๒.๓.๒ สำหรับคนที่ดาวมฤตยู(๐) เล็งลัคนา ควรเลือกคบคนที่เคยมีคู่มาก่อน หรือคนที่มีตำหนิ จะสามารถครองคู่ได้อย่างมีความสุข หากคบกับคนที่เป็นหนุ่มหรือเป็นสาวที่ไม่เคยผ่านการมีคู่มาก่อน ส่วนมากชีวิตคู่จะไม่ยืนยาว มีโอกาสที่จะเลิกรากันได้ง่าย

.๒.๓.๓ สำหรับคนที่มีดาวมฤตยู(๐) เล็งลัคนา ถ้าแต่งงานแล้ว ได้คู่ที่รักกันมาก อายุไล่เลี่ยกัน คู่เป็นคนโสดไม่ผ่านการมีคู่มาก่อน ก็ไม่ควรรักกันมากเกินแบบหลุมหลง เพราะหากฝ่ายตรงข้างดวงเปราะหรือดวงชาตาเดิมไม่ดีในเรื่องคู่ครอง อาจจะทำให้คู่อายุสั้น เนื่องจากดาวมฤตยู(๐) อยู่ในเรือนปัตนิ เล็งลัคนา มักจะเป็นดวงกินคู่ อาจจะทำให้คู่ครองมีอันเป็นไปได้ง่าย จึงควรแก้เคล็ดด้วยการไม่ใกล้ชิดกันมาก ควรแยกนอนคนละห้อง หรืออยู่คนละบ้าน บางคนแก้เคล็ดด้วยการจดทะเบียนหย่าก็มี (ข้อนี้ไม่อยากแนะนำ)

.๒.๓.๔ คำว่าดวงกินคู่ มี ๒ แบบคือ หากเจ้าเรือนปัตนิตกภพมรณะ ดวงนี้เรียกว่าดวงกินคู่แท้ ควรแก้เคล็ดด้วยการแต่งงานกับคนที่เป็นหม้ายมาก่อน และควรแยกกันอยู่ แถมอย่ารักกันมากเกิน หากดาวมฤตยู(๐) อยู่ในภพปัตนิ ผลร้ายจะเกิดขั้นน้อยกว่าแบบแรก ไม่ควรแต่งงานกับคนที่ไม่เคยผ่านการมีคู่มาก่อน หรือแต่งงานกับคนวัยเดียวกัน เมื่อแต่งงานแล้วควรแยกกันอยู่จะปลอดภัยดีกว่าการอยู่ร่วมกัน และไม่ควรรักกันมาก โอกาสที่คู่จะพลัดพรากก็มีไม่น้อย

.๒.๓.๕ หากในดวงชาตามีทั้งดาวมฤตยู(๐) และดาวเกตุ(๙) ถึงลัคนา (เป็นหนึ่ง สี่ เจ็ดและสิบจากลัคนาหรือจันทร์) ในพิจารณาดาวดวงใดมีองศาใกล้เคียงกับลัคนามากกว่ากัน ดาวที่มีองศาใกล้เคียงกับลัคนามากกว่า จะมีอิทธิพลต่อเจ้าชาตามากกว่า ดาวที่มีองศาห่างจากลัคนา

Read more

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวเสาร์(๗)

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวเสาร์(๗)

ในการพยากรณ์ดวงชาตาตามหลักโหราศาสตร์ไทย จะมีดาวนพเคราะห์จำนวน ๑๐ ดวง โดยแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือดาวศุภะเคราะห์ มีดาวจันทร์(๒) ดาวพุธ(๔) ดาวศุกร์(๖) ดาวพฤหัส(๕)  ดาวบาปเคราะห์ มีดาวอาทิตย์(๑) ดาวอังคาร(๓) ดาวเสาร์(๗) ดาวราหู(๘) ดาวที่เป็นได้ทั้งศุภะเคราะห์และบาปเคราะห์ มีดาวเกตุ(๙) และดาวมฤตยู(๐)  จะเห็นได้ว่าดาวพระเสาร์(๗) เป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ ให้

ดาวที่คุ้มโทษได้ มีดาวอะไรบ้าง

ดาวที่คุ้มโทษได้ มีดาวอะไรบ้าง

ในราศีทั้ง ๑๒ ราศี  จะแบ่งออกเป็น ๔ ประเภท คือ ๑. ปัศวะราศี  ประเภทสัตว์บก ๔ เท้า มีราศีเมษ ราศีพฤษภ และราศีสิงห์  ๒. นระราศี ประเภทมนุษย์ มีราศีเมถุน ราศีกันย์ ราศีตุลย์ ราศีธนู และราศีกุมภ์  ๓. อัมพุราศี  ประเภทสัตว์น้ำมี

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวศุกร์(๖)

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวศุกร์(๖)

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวศุกร์  (Venus) ดาวศุกร์(๖) จากคำกลอนที่ท่านบูรพาจารย์ได้กล่าวว่า “กิเลสสมบัติทายศุกร์” มีคำที่เป็นคำหลัก( keyword ) อยู่สองคำ คือคำว่า กิเลส กับคำว่าสมบัติ .คำว่ากิเลส หมายถึง ความรัก ความสวยงาม รสนิยมทางด้านศิ

คุณ-โทษของดาวที่เดินวิกลคติ

คุณ-โทษของดาวที่เดินวิกลคติ

ดาวที่เดินผิดปกติคือ  เรียกว่า วิกลคติ   ความหมายของดาวที่เดินผิดปกติโดยปกติแล้วการโคจร หรือการเดิน ของดวงดาวในทางโหราศาสตร์นั้น จะเดินตามระยะเวลาที่ได้มีการ คํานวณเอาไว้แต่ทว่า ในการโคจรดวงดาว จะมีภาวะบางอย่างที่ทําให้ การโคจรแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งในทางโหราศาสตร์ไทยจะกล่าวถ ึงการเดิน แบบผิ