เกล็คดวามรู้โหราศาสตร์ไทย เกี่ยวกับดาวเกษตร ๘ ดวง

เกล็คดวามรู้โหราศาสตร์ไทย เกี่ยวกับดาวเกษตร ๘ ดวง

เกร็ดความรู้ โหราศาสตร์ไทย  เกี่ยวกับดาวเกษตร  ๘ ดวง

ท่านอาจารย์บรรเทา จันทร์ศร(อุตรภัทร์)  ท่านได้ให้กร็ดความรู้ โหราศาสตร์ไทย ในการพยากรณ์ดวงชะตา  ท่านอาจารย์กล่าวว่า ในการพยากรณ์ดวงชาตาตามหลักโหราศาสตร์ไทย จะมีดาว ๑๐ ดวงที่ใช้ในการพยากรณ์ แต่มีดาวที่สำคัญ ๔ ดวง คือดาวพฤหัสบดี (๕) ดาวเสาร์(๗)  ดาวราหู(๘)  และดาวศุกร์(๖) เป็นหลักในการพยากรณ์ดวงชะตา โดยเฉพาะในการพยากรณ์ดวงชาตาจร  ส่วนดาวที่เหลือเป็นดาวที่คอยสนับสนุนส่งเสริมดาวทั้งสามดวงนั้น

การพยากรณ์ดวงชะตาโดยเฉพาะการพยากรณ์ดวงชาตาจร จะมีดาวเคราะห์จำนวน ๑๐ ดวง แต่เมื่อเอาเป็นหลักใหญ่จริง ๆ แล้วมีดาวที่สำคัญเพียง ๔ ดวง คือ ดาวพฤหัสบดี (๕) ดาวเสาร์ (๗) ดาวราหู (๘)  และ ดาวศุกร์(๖) ดาวทั้ง ๔  ดวงนี้ ครองความเป็นใหญ่ เป็นเจ้าโลกา  เป็นอธิธาตุ กล่าวคือ

  ดาวพฤหัสบดี เป็นเจ้าแห่งธรรม และเจ้าแห่งศีลธรรมระเบียบแบบแผน และเป็นเจ้าแห่งความดีงามทุกชนิด เป็นประธานของดาวศุภเคราะห์ (ดาวฝ่ายดี) ดาวเสาร์ (๗) เป็นประธานของดาวบาปเคราะห์เป็นเจ้าแห่งความจริงจัง เจ้าแห่งการงาน เจ้าแห่งความแร้นแค้น ความทุกข์ยากลำบาก เรียกอีกอย่างว่า เจ้าพ่อแห่งแรงงาน เจ้าแห่งความตระหนี่ถี่เหนียว ความมัธยัสถ์ เป็นประธานฝ่ายบาปเคราะห์ ดาวราหู ๘ เป็นเทพเจ้าแห่งความเปลี่ยนแปลง เป็นเจ้าแห่งนักเลง นักการพนัน เจ้าแห่งความขัดแย้ง เจ้าแห่งการเปลี่ยนแปลงระบบแบบแผน เจ้าแห่งการทำลายล้างทุกชนิด 

 ดาวศุกร์(๖) จากคำกลอนที่ท่านบูรพาจารย์ได้กล่าวว่า “กิเลสสมบัติทายศุกร์” มีคำที่เป็นคำหลัก( keyword ) อยู่สองคำ คือคำว่า กิเลส กับคำว่าสมบัติ

.คำว่ากิเลส หมายถึง ความรัก ความสวยงาม รสนิยมทางด้านศิลปะ

ความรัก เป็นพื้นฐานที่สำคัญทางจิตใจของมนุษย์ องค์ประกอบสำที่สำคัญของความรักคือ กามารมณ์ ความต้องการทางเพศ ความต้องการความสุขสบาย ท่านบูรพาจารย์ท่านกล่าวว่า กามารมณ์มีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ฉันใด ดาวศุกร(๖) ก็มีความสำคัญต่อดวงชาตาของแต่ละคนฉันนั้น ความสวยงาม ทำให้โลกสดใส่ มีชีวิตชีวา สดชื่นสำหรับคนที่ได้พบเห็น ฉะนั้น คนที่ดาวศุกร์เด่น ถึงลัคนา จะเป็นคนรักสวยรักงาม ชอบแต่งตัวให้ดูสวยงาม เป็นเสน่ห์แก่คนที่ได้พบเห็น หรือเพศตรงข้าม คนที่ดาวศุกร์เดนและถึงลัคนา จะเป็นคนมีอารมณ์สุนทรีทางด้านศิลปะและการแสดงอีกด้วย

.คำว่า สมบัติ หมายถึง การเงิน ทรัพย์สมบัติ คนที่ดาวศุกร์เด่นและถึงลัคนา จะเป็นคนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน เงินทอง 

คนที่มีดาวศุกร์ถึงลัคนา หากเป็นหญิง จะเป็นคนที่รูปร่างสวยงาม มีเสน่ห์สำหรับผู้ที่ได้พบเห็น หากเป็นชาย จะเป็นคนรูปหล่อ ท่าทางสง่างาม มีเสน่ห์ต่อผู้ที่ได้พบเห็น

ดาวพฤหัส(๕) ดาวเสาร์(๗) ดาวราหู(๘) และดาวศุกร์(๖)  เป็นดาวแม่ธาตุ(อธิกธาตุ)  

ส่วนดาวอีก ๔ ดวงคือดาวจันทร์(๒) คอยส่งเสริมดาวพฤหัส(๕) แต่เนื่องจากดาวจันทร์(๒) เดินเร็จ โหราจารย์จารย์ท่านใช้ดาวเกตุ(๙) แทน ดาวอาทิตย์(๑) คอยส่งเสริมดาวเสาร์(๗) ดาวอังคาร(๓) คอยส่งเสริมดาวราหู(๘) และดาวพุธ(๔) คอยส่งเสริมดาวศุกร์ เป็นดาวบริวารคอยเสริม คอยสนับสนุนเจ้านายของตน ดาว ๔ ดวงคือดาวจันทร์(๒) ดาวอาทิตย์(๑) ดาวอังคาร(๓) และดาวพุธ(๔) เรียกว่าอนุกธาตุ 

 ฉะนั้น ในการดูดาวจรในแต่ละปักษ์ ดาวพฤหัสบดี (๕) ดาวเสาร์ (๗)  ดาวราหู (๘) และดาวศุกร์(๖)  เป็นดาวที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงให้เกิดความดี ความร้าย ทำให้เจ้าของดวงชะตาดีขึ้น หรือแย่ลง ส่วนดาวอื่น ๆ เป็นดาวที่คอยส่งเสริมหรือคอยขัดขวางดาวทั้ง ๔  ดวงนี้

ดาวพฤหัสบดี (๕) เปรียบกับบุคคลได้แก่ พระราชา พราหมณ์ ข้าราชการ เสนาบดีขั้นแนวหน้าทั้งหลายส่วนดาวที่เป็นลูกน้องคอยส่งเสริมได้แก่  ดาวจันทร์(๒)  

ดาวเสาร์ (๗) เปรียบกับบุคคล ได้แก่ พวกชนชั้นหัวหน้าในการใช้แรงงาน ใช้กำลัง ในทางกสิกรรม เกษตรกรรม อุตสาหกรรม เช่น บริษัท ร้านค้า ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ส่วนดาวที่คอยส่เสริมดาวเสาร์ (๗) ได้แก่ดาวอาทิตย์(๑)

ดาวราหู (๘) เปรียบกับบุคคล ได้แก่ พวกหัวหน้าอันธพาล พวกโจร พวกขายของหนีภาษี หรือพวกปฏิวัติหักล้าง ส่วนดาวที่คอยสนับสนุนได้แก่ ดาวอังคาร (๓) ดาวเสาร์ (๗) ดาวอังคาร (๓) เป็นดาวที่คอยช่วยดาวราหู (๘) เป้นดาวร้าย แต่ดาวเสาร์เป็นดาวที่ช่วยดาวราหูให้แสดงปฏิกิริยาไปในทางดี 

๑. ดาวพฤหัสบดี (๕) ให้คุณ ก็จะทำให้เจ้าชะตาสบายแบบราชา พระมหากษัตริย์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

ท่านอาจารย์บุศรินทร์ ปัทมาคม ท่านได้กล่าวไว้หนังสือโหราศาสตร์เรียนด้วยตนเองว่า คนที่มีดาวพฤหัสบดี ๕ เด่นและถึงลัคนา จะเป็นคนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้รอดพ้นจากวิกฤติการณ์ต่าง ๆ เป็นคนประเภทตามคำโบราณที่ว่า "ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่หม้าย" เหตุการณ์ร้าย ๆ จะไม่เกิดขึ้นในชีวิต ยกเว้นในดวงชะตาเดิมดาวพฤหัสบดีตกอยู่ในตำแหน่งทุสนะภพ(อริ มรณะและวินสาสน์)

คนที่ดาวพฤหัสบดี (๕) ในดวงชะตาเดิมได้เกณฑ์มาตรฐานสูง และส่งกำลังถึงลัคนา (ทับลัคนาให้ผล ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เล็งลัตนาภพที่่เจ็ดจากลัคนา ให้ผลร้อยละ ๗๕  ถ้าตรีโกณเป็นห้าจากลัคนาทางด้านโชคลาภให้ผลร้อยละ ๕๐ ถ้าเป็นสามจากลัคนาให้ผลร้อยละ ๒๕  จะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่า เจ้าชะตาจะเป็นคนมีจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมความดี มีเมตตากรุณาต่อผู้อื่น จะเป็นคนที่โอนโยน ขี้สงสารคนอื่น ไม่นิยมความรุนแรง มักจะใช้สติปัญญา ใช้หตุผลในการแก้ปัญหา ป็นคนที่ดำเนินชีวิตด้วยความสุขุมรอบคอบ ไม่ชอบการเสี่ยง โดยเฉพาะไม่กล้าในเรื่องการเสี่ยงภัย เป็นพวกมีสติสัมปชัญญะมากในการดำเนินชีวิต จึงตัดสินใจทำอะไรช้่ากว่าคนอื่น ประเภทคิดมาก คิดนาน และไม่ค่อยวางใจคนอื่น จึงเป็นคนประเภทรวบอำนาจไว้ทำเองหมดทุกเรื่อง ส่วนมากจะเป็นนักวิชาการใช้วิชาความรู้มาเป็นหลักการและเหตุผล จึงไม่ว่องไวปราดเปรียวเหมือนคนที่ดาวพุธ (๔) เด่นซึ่งจะเป็นคนที่สามารถแก้ปัญหาได้รอดเร็ว หลักแหลมและว่องไวกว่าคนที่มีดาวพฤหัสบดี (๕) เด่น แต่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ดาวพฤหัสบดีในดวงราศีจักร์เด่นจริงหรือเปล่าโดยไปตรวจสอบในดวงนวางค์จักร เพราะดวงนวางค์จักรใช้ประเมินมาตรฐานของดาวแต่ละดวงในดวงราศีจักรว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร

หากดาวพฤหัสบดี (๕) ตกในตำแหน่งทุสนะภพ (อริ มรณะและวินาสน์) หรือตกในเกณฑ์ที่เสื่อม เช่น เป็นประหรือประเกษตร เช่น ดาวพฤหัสบดี ในราศีเมถุน และในราศีกันย์ ได้ตำแหน่งเป็นประ คำว่า ประ แปลว่า เสื่อม หาความเจริญได้ยาก มีอุปสรรค ถูกกลั่นแกล้ง ถูกรังแก

ดาวพฤหัสดบีในราศีเมถุน ซึ่งมีดาวพุธ (๔) เป็นดาวเจ้าเรือน ท่านอาจารย์บุศรินทร์ ปัทมาคม ท่านกล่าวว่า ดาวพฤหัสบดี (๕) ได้ตำแหน่งประในราศีเมถุน จะเป็นคนมีสติปัญญาในการเป็นนักแก้ปัญหา สามารถนำความรู้และประสบการณ์มาใช้ ถ้าเป็นนักบริหารก็จะเป็นนักบริหารที่มีความสามารถในการแก้ปัญหาได้อยางดีเยี่ยม การทำอะไรส่วนมากจะต้องมีผลประโยชน์ตอบแทน เป็นคนประเภทไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ในการต่อสู้ จะลืมคำว่าคุณธรรมและมโนธรรม จะกลายเป็นคนประเภทไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องใช้คาถา ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีสติปัญญาดี สามารถเรียนได้สูง ๆ มากกว่าปริญญาตรี

ดาวพฤหัสบดี ในราศีกันย์ ซึ่งมีดาวพุธเป็นดาวเจ้าเรือน เหมือนกัน แต่ดาวพฤหัสบดีในตำแหน่งนี้โบราณท่านบอกว่า "เป็นดาวพฤหัสบดี ที่สู้ครูและมักจะขาดที่พึ่ง เจ้าชะตาจะเป็นคนฉลาดแบบแกมโกง คือมีไหวพริบแบบมีล่ห์เหลี่ยม บางตำราเรียกว่า เป็นผู้มีกลโกงแบบบันลือโลก มีสติปัญญาชนิดที่ครูยังต้องยอมแพ้ จึงเรียกว่า ดาวพฤหัสบดี (๕) สู้ครู คือมีสติปัญญาในกลโกงอย่างยอดเยี่ยมและไม่ค่อยชื่อฟังครูบาอาจารย์ เป็นคนไม่ชอบเดินตามทฤษฎี เป็นนักประสบการณ์ที่มีความสามารถมาก ๆ สามารถแก้ปัญหาแบบผู้มีประสบการณ์มากกว่าการใช้วิชาความรู้ ถ้าดาวราหู (๘) เด่น ส่งกำลังถึงลัคนาแล้ว เจ้าชะตาจะเป็นนักเลงการพนันชั้นยอด

ท่านอาจารย์บุศรินทร์ ปัทมาคม ท่านกล่าวเพิ่มเติมว่า ตำราส่วนใหญ่จะสรุปว่า ดาวพฤหัสบดี (๕) เป็นประ ทั้งสองราคี มักจะขาดที่พึ่งไม่มีครู เป็นคนประเภทรู้ดีกว่าครู หรือเรียกว่าสู้ครู

ดาวพฤหัสบดี (๕) ในราศีเมถุน มักจะมีสติปัญญาค่อนข้างเฉียบแหลมมีความสามารถในการศึกษาเล่าเรียนได้สูง ๆ ดาวพฤหัสบดีในราศีเมถุน ถือว่ามีสติปัญญาดีมาก สามารถเรียนได้จบขั้นปริญญาเอก แต่ถ้าพฤหัสบดี (๕) ในราศีกันย์ การศึกษาเล่าเรียนไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แต่มีความสามารถในการนำประสบการณ์มาใช้ในการดำเนินชีวิตมากกว่าจะเป็นนักวิชาการ

ดาวพฤหัสบดีในราศีมังกร ได้ตำแหน่ง นิจ คำว่านิจ แปลว่า เสื่อม หรือ อ่อน ไม่ให้คุณทางที่ดี เจ้าชะตาจะมีสติปัญญาน้อย การศึกษาเล่าเรียนไม่สูงนัก และจะเสียเพราะปาก แต่ต้องดูดาวพุธ (๔) ประกอบด้วยจึงจะตัดสินใจได้ถูกต้องว่าเสียเพราะปากจริงหรือไม่

ข้อแตกต่างระหว่างดาวพฤหัสบดี (๕)และดาวพุธ (๔) ดาวพฤหัสบดี (๕) เป็นสติปัญญาบริสุทธ์ เหมาะแก่การศึกษาหาความรู้ เป็นการใช้สติปัญญาทั้งในทางโลกและทางธรรม อย่างสุขุมรอบคอบและมีแบบแผน สำหรับดาวพุธ (๔) เป็นสติปัญญาที่เกี่ยวกับความฉลาดหลักแหลม เหมาะแก่การหาความรู้ด้วยการสังเกต การดูงาน หรือ ปัญญาอันเกิดจากประสบการณ์ หากในดวงชะตามีทั้งดาวพฤหัสบดี (๕)และดาวพุธ (๔) ถึงลัคนา เจ้าชะตาจะมีทั้งความรู้และมีไหวพริบดี ทั้งยังมีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ได้อย่างดียิ่ง ฉะนั้น คนที่มีดาวพฤหัสบดีและดาวพุธเด่น จึงมีอาชีพเหมาะสำหรับทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ เป็นอาจารย์ เป็นผู้บรรยาย เป็นนักเขียน นักวิเคราะห์ข่าว เป็นผู้สื่อข่าว และเป็นนักธุรกิจ

ในการพยากรณ์ดวงชาตาจร หากดาวพฤหัส(๕) จรเป็นธาตุ ชั้น ๑ อสีติธาตุ ให้คุณแก่เจ้าชาตามาก เป็นธาตุ ชั้น ๒ ธาตุคู่มิตร ให้คุณแก่เจ้าชาตา หากเป็นธาตุ ชั้น ๓ ธาตุเป็นกลาง หากเป็นธาตุ ชั้น ๔ ธาตุคู่ศัตรู ให้โทษแก่เจ้าชาตา  ถามว่าให้คุณและให้โทษอย่างไร ก็ต้องกลับไปดูดวงชาตาเดิม ว่าดาวพฤหัส(๕) ในดวงชาตาเดิม เป็นดาวเจ้าเรือนอะไร จรไปสถิตราศีอะไร เรือนชาตาอะไร  ก็ให้คุณและให้โทษตามนั้น

๒. ดาวเสาร์ (๗) ให้คุณก็ทำให้คนที่ทำงานแบบพวกต้องใช้แรงงาน กรรมกร เกษตรกรรม คนที่ทำงานตามความถนัดด เป็นคนบากบั่นแต่งานหนัก ดาวเสาร์เป็นเกษตรในราศีมังกร เกษตร หมายถึง ความมั่นคง ยั่งยืน เข้มแข็ง สมบูรณ์ ดาวเสาร์เป็นเกษตร ในราศีมังกร ความหมายตามตำรา " เสาร์ราหู เป็นเกษตร มีข้าหญิงชายและทรัพย์มาก จะได้ลาภเป็นอันดี เพราะศักดิ์กล้าหาญ แต่เป็นคนตระหนี่ทรัพย์ ไม่ทำบุญสุนทาน และจะมีผมบาง" ดาวเสาร์เป็นเกษตร จะเป็นผู้มีวาสนาดีในด้านความอดทน ความกล้าหาญเด็ดขาด เป็นผู้ที่พิชิตความเหนื่อยยากในทุกรูปแบบ เหมาะกับงานด้านเกษตรกรรม ธัญญาหาร การขุดค้นทรัพย์ในดิน กิจการเหมืองแร่ งานด้านเครื่องกล มีทรัพย์สมบัติโดยเฉพาะที่ดิน ที่ทำการเกษตรเป็นสำคัญ ดาวเสาร์เด่น ก็ทรงคุณความดีไปในด้านความกล้าหาญ เป็นนักต่อสู้ที่มีความแข็งแกร่ง อดทนแบบเด็ดเดี่ยว แต่มีปฏิญาณน้อยกว่าดาวอังคาร ดาวเสาร์มีลักษณะเด่น คือ เก็บความโกรธไว้ได้นาน เป็นคนที่มีใจอาฆาตที่รอโอกาสแก้แค้นได้นานกว่าดาวดวงอื่นๆ จุดเสียของดาวเสาร์คือ ขี้วิตกกังวล ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ มีภาระในด้านการปกครอง เป็นนักบริหารชั้นยอด

ดาวเสาร์เป็นราชาโชคในราศีพิจิก ความหมายของราชาโชค  " เสาร์………..เป็นราชาโชค……….ทำราชการฝ่ายทหารดี อายุยืน มีความโอ่อ่า มีหน้ามีตา เจ้าสำราญ มีเสน่ห์ ฟุ้งเฟ้อ สำรวย  มีพรสวรรค์"

เสาร์เป็นราชาโชค หากรับราชการฝ่ายทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการฝ่ายปราบปรามจะเจริญก้าวหน้าดี อายุยืน มีความโอ่อ่า มีหน้ามีตา บางครั้งอาจเป็นคนเจ้าสำราญ มีเสน่ห์ ฟุ้งเฟ้อ สำรวย มีพรสวรรค์

ดาวเสาร์เป็นอุจจ์ในราศีตุลย์ เสาร์ เป็นอุจจ์ มีปัญญา มี พาหนะ และความเพียรมาก แต่จะดุร้ายไม่ละอายบาป จะมีโรคน้อย ทุกข์โทษภัยไม่มี ดาวเสาร์ เป็นอุจจ์ อยู่ในราศี ตุลย์ "อุจจ์พระเสาร์ว่ามีบุญกำลังหาญ รู้การงานจิตสมัครรักสหาย โรคน้อยถอยโทษโจทก์ก็คลาย วัวควายช้างม้าค่าอนันต์ มีตะบะมีเดชวิเศษลูก ตนจะปลูกใจกล้าชล่าหาญ อุดมเมียค้าพาหะยาน เชี่ยวชาญหน้าที่คุมรี้พล เมียก็ดีเป็นที่วางใจได้ จะเป็นนายเพื่อนบ้านรักมักโอ่โถง ทั้งนุ่งห่มก็จะแลแพรสมทรง แต่ว่าคงสุขทุกข์ทึ่งก้ำกึ่งกัน เป็นที่รักแก่เสนาประชาชาติ ชายหญิงมาดมุ่งชอบประกอบสรรค์ อายุยิ่งยืนยงกว่าพงศ์พันธุ์".

ดาวเสาร์เป็นมหาจักรในราศีพฤษภ หมายถึง ความคล่องแคล่ว ว่องไว กระฉับกระเฉง ผาดโผน ดังอย่างพลุแตก ตกอย่างพลุดับ

ยิ่งถ้าดาวพระเสาร์ได้นระเกณฑ์ ยิ่งไม่ธรรมดา คงจะเป็นขั้นเศรษฐีหรือมหาเศรษฐี

- มีทรัพย์สินเงินทองมาก โดยเฉพาะเรื่องอสังหาริมทรัพย์ คำว่านระเกณฑ์ ตามคำกลอนท่านบูรพาจารย์ท่านได้กล่าวไว้่ว่า "นระสุริยะเรื้อรังษี โสระชีวะมี ถูกต้อง สามองค์ทรงโสภี กุมลัคน์ ชาติใดได้ดั่งพร้อง ยศนั้นนาพัน" ราศีประเภทนระราศีได้แก่ราศีเมถุน ราศีกันย์ ราศีตุลย์ ราศีธนู และราศีกุมภ์ หากในดวงชะตาเกิดของใครอยู่ราศีประเภทนระ(คน) หากมีดาวเคราะห์ อาทติย์ ๑ ดาวเสาร์ ๗ และดาวพฤหัสบดี ๕ ดวงใดดวงหนึ่งกุมลัคนา ท่านว่าจะมียศได้นาพันหนึ่ง (สมัยโบราณใครมีที่นามามาก คนนั้นถือว่า เป็นมหาเศรษฐี)

ด้านเสียของดาว ๗ จะเป็นคนมีความวิตกกังวล เจ้าคิดเจ้าแค้น เป็นคนช่างจดช่างจำ เข้าทำนองเป็นคนมีความอาฆาตมาก มีความเจ็บจำและผูกพยาบาทสูง เหมือนคำว่า "บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ"

ในกรณีที่ดาวเสาร์ตกในตำแหน่งพินทุบาทว์ (แปลว่า ชำรั่ว) ก็คงจะเป็นไปตามคำโคลงที่ท่านบูรพาจารย์ท่านได้แต่งไว้ว่า "เสาร์เพ่งเล็งลัคน์แล้ว อสุรา ภุมเมนท์อัฏฏา ว่าไว้ จันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่ราหูเล่า อาภัพอัปภาคย์ให้ โทษแท้ประเหินหิน" ในคำโคลงนี้ หมายความว่า ดาวพระเสาร์เล็งลัคนา ดาวพระราหูและดาวพระอังคารอยู่ในราศีที่แปดจากลัคนา ดาวพระจันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่ดาวพระราหู อย่างใดอย่างหนึ่ง ดวงชะตาบุคคลนั้น จะอาภัพอัปภภาคย์ให้โทษแท้ประเหินหิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวพระเสาร์อยู่ในภพที่เจ็ดคือภพปัตนิ หมายถึงคู่ครอง คนรัก เพศตรงข้าม หุ้นส่วน การทำสัญญาต่าง ๆ ดาวพระเสาร์ตามคำท่านบูรพาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า "โทษทุกข์ทายเสาร์" ดังนั้นเมื่อดาวเสาร์เล็งลัคนา ก็จะเกิดโทษทุกข์ในเรื่องคู่ครอง คนรัก เพศตรงข้าม การลงทุนร่วมกับคนอื่น ดาวเสาร์เป็นดาววิตกจริต จึงเป็นคนชอบวิตกกังวล ตระหนี่ถี่เหนียว ไม่ยอมเสียเปรียบใครง่าย ๆ ฉะนั้นเมื่อดาวเสาร์เล็งลัคนาก็จะเป็นคนที่เลือกคู่ครองหรือคนรัก เกล็ดที่สำคัญคือหากเจ้าชาตาไม่ได้เกิดวันเสาร์(๗) ความเป็นพินทุบาทว์ ก็จะมีน้อย

ท่านอาจารย์บรรเทา จันทรศร(อุตรภัทร)ท่านบอกว่า ร้อยละเก้าสิบแต่งงานช้า ส่วนมากจะแต่งงานเกินวัยหนุ่มสาวทั้งนั้น และส่วนมากจะไม่มีคู่แบบสด ๆ ซิง ๆ ส่วนใหญจะเจอพ่อหม้าย แม่หม้าย พ่อร้าง แม่ร้าง บางรายแถมเรือพ่วงอีกลำสองลำ บางรายอายุ ๔๐-๕๐ ก็ยังหาคู่ไม่ได้ ด้วยสาเหตุเหล่านี้คือ ๑. พบคนที่มีวัยและความรู้ใกล้เคียงกัน แต่ฐานะทางบ้านต่ำกว่าก็ไม่เอา ๒. พบคนที่มีฐานะเท่าเทียมกัน แต่อายุแก่กว่าหรืออ่อนกว่าก็ไม่เอา ๓.พบคนที่มีฐานะเท่าเทียมกันอายุเท่าเทียมกันแต่ความรู้ไม่เท่าเทียมกันก็ไม่เอาอีก เลือกมากจนหาคนที่ใช่ไม่เจอตลอดชีวิต

และดาวเสาร์เป็นพินทุบาทว์ในภพปุตตะกับลัคนา (ความหมายของภพปัตตะ - -บุตรธิดา เด็ก บริวาร ผู้มีอายุน้อยกว่า ผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้มีอาวุโสต่ำกว่า คนรัก อนุภริยา ชู้สาว ชายชู้ ความรัก) ตามคำกลอนที่ว่า " รวิภุมมะทั้ง โสรา ปัจจะแก่ลัคนา พุธเก้า จันทร์ กับชีวาเป็นแปด ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้า ว่ร้อนนิรันดร์" คำโคลงบทนี้หมายถึง ดาวพระอาทิตย์ ดาวพระอังคารและดาวพระเสาร์เป็นห้าแก่ลัคนา ดาวพระพุธเป็นเก้ากับลัคนา พระจันทร์และพระพฤหัสบดีเป็นแปดแก่ลัคนาและดาวพระศุกร์เป็นเจ็ดแก่ลัคนา ท่านว่าชะตาร้อนนิรันดร์"

ราศีที่ห้าแห่งลัคนา คือภพปุตตะ หมายถึง บุตรธิดา ความอิ่มเอิบยินดียินร้าย อารมณ์ ความต้องการ ความสุขและความสนุกสนาน ความบันเทิง ความผิดหวังและสมหวัง แต่เรื่องที่สำคัญคือเรื่องอารมณ์และความต้องการ คนที่มีดาวพระเสาร์อยู่ในภพที่ปุตตะ มักจะเป็นคนที่เอาความคิดและความต้องการของตนเองเป็นใหญ่มากกว่าเหตุผล เป็นคนประเภทเจ้าแง่แสนงอน อารมณ์เปลี่ยนแปลง่าย เดียวดีเดี่ยวร้าย จุกจิก จู้จี้ขี้บ่น เพราะอะไรก็ไม่ถูกใจเลย คำนิยามของดาวพระเสาร์ก็คือ"โทษทุกข์ทายเสาร์" เมื่อดาวพระเสาร์เป็นห้าแก่ลัคนา ก็จะเป็นคนอมทุกข์ ใบหน้ามีปัญหาอยู่ตลอดเวลา เป็นเสือยิ้มยาก ดาวพระเสาร์เป็นดาววิตกจริต อารมณ์จะคุกรุ่นไปด้วยความวิตกและความกังวล ดาวพระเสาร์เป็นดาวธาตุไฟในเถ้าถ่านหรือไฟในดิน คุกกรุ่นอยู่ตลอดเวลา จะกระวนกระจายไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนมากจะเป็นกลัวความยากจน เลยเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวมาตั้งแต่เด็กและวัยหนุ่มสาว พอถึงวัยชราก็สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ มีทรัพย์สินเงินทองมากพอโดยไม่ต้องพึ่งบุตรหลาน ชีวิตบัันปลาจจะพบความสำเร็จ แต่ต้องใช้ความพยายามมานะบากบั่น

ในการพยากรณ์ดวงชาตาจร หากดาวเสาร์(๗) จรเป็นธาตุ ชั้น ๑ อสีติธาตุ ให้คุณแก่เจ้าชาตามาก เป็นธาตุ ชั้น ๒ ธาตุคู่มิตร ให้คุณแก่เจ้าชาตา หากเป็นธาตุ ชั้น ๓ ธาตุเป็นกลาง หากเป็นธาตุ ชั้น ๔ ธาตุคู่ศัตรู ให้โทษแก่เจ้าชาตา  ถามว่าให้คุณและให้โทษอย่างไร ก็ต้องกลับไปดูดวงชาตาเดิม ว่าดาวเสาร์(๗) ในดวงชาตาเดิม เป็นดาวเจ้าเรือนอะไร จรไปสถิตราศีอะไร เรือนชาตาอะไร  ก็ให้คุณและให้โทษตามนั้น

๓. ดาวราหู (๘) ให้คุณ ก็จะทำวิถีชีวิตเป็นไปแบบวูบวาบ คือเดียวสุข เดี่ยวทุกข์ ชะตาชีวิตขึ้น ๆ ลง ๆ เอาแน่นอนไม่ได้เข่น ดาวราหูเป็นสี่แก่ลัคนา ตามคำกลอนที่ว่า "…..ราหูสองสี่ซ้อน แทรกซ้ำสิบสอง " เป็นพินทุบาทว์ ภพที่สี่คือภพพันธุ ญาติพี่น้อง บ้านที่ดิน เช่น ที่ดินมากมายของบิดามารดา แต่ต่อมาปรากฏว่าถูกเขาโกงจนหมดตัว เนื่องจากราหูเป็นผู้ทำลาย แต่ถ้าหากดาวราหูอยู่ในภพที่ ๖ หรือ ๘ ท่านเรียกว่า ดีนัก ได้เกณฑ์ที่ดี ความหมายก็คือ ภพที่ ๖ เป็นเรือนอริ ดาวราหูคอยขัดขวางศัตรู ทำลายศัตรูให้หมดสิ้นไป

ตั้งแต่ วันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๖๖ ตามระบบสุริยศาสตร์ แต่ตามปฏิทินระบบนิรายนะ(ดาราศาสตร์) วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๖  ดาวราหู ๘ ย้ายเข้าไปสถิตราศีมีน  ทับลัคนา ดวงเมืองไทย ดาวราหูเดิมเป็นดาวธาตุน้ำ  ดาวราหู(๘)  โคจรไปสถิตในราศีมีน ซึ่งเป็นธาตุน้ำ  เป็นธาตุชั้น ๑ อสีติธาตุ ให้คุณแก่ดวงเมืองมาก ประกอบกับดาวราหู(๘) จรไปสถิตราศีมีน ทั้งในดวงราศีจักรและดวงนวาวค์จักร เป็นวรโคตมนวางค์ 

วรโคตมแปลว่าประเสริฐ สูงสุด ไร้มลทิน ซึ่งให้คุณสูงกว่าอุจและมหาอุจหลายเท่า ดาวที่ได้ตำแหน่งนี้ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเสียเช่นประ นิจ พินทุบาทว์ กาลกิณี(ตามทักษา)อุบาทว์ โลกาวินาศ(ตามกาลโยค)เจ้าเรือนทุสถาณภพหรือแม้แต่ติดลูกพิษ(เช่นในราศีพฤษภและราศีกุมภ์)ดาวกลับให้คุณสูงมากอย่างอัศจรรย์  เหตุการณ์ร้าย ๆ มักจะไม่บังเกิด แม้ดวงภินทุบาทก็ไม่ปรากฏความร้ายชัด นอกจากความรู้สึกว่าตนไม่ประสบผลดีหรือมีโชคเท่าผู้อื่นเท่านั้น พระเคราะห์ใดเสวยวรโคตมนวางค์ คำพยากรณ์ในทางร้ายมักจะไม่ถูก (เว้นเกตุ มฤตยู เพราะไม่ใช่พระเคราะห์เจ้าเรือน) โดยปกติถ้าเป็นทุสถานภพ อันได้แก่ อริ มรณะ และวินาสน์  มักจะคุ้มโทษ  เรือนมรณและวินาสน์มักจะได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเป็นสมบัติ และคุ้มภัยพิบัติจากธรรมชาติ

ดาวราหู(๘) เสวยวรโคตมนวางค์ เจ้าชาตาเป็นคนมีน้ำใจกล้าแข็ง มักมีอำนาจวาสนา ชนะศัตรู มีอายุยืนนาน ได้บุตรบริวารดี ได้รับการอุดหนุน เจือจุนเป็นอย่างดี ย่อมเป็นใหญ่ได้ จะชำนาญในศิลปกรรม(ฝีมือดี) มีเมตตากรุณา   จะสมบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ ผสมกับราชาโชค กล่าวคือจะมีคนอุปถัมภ์ค้ำชู ช่วยเหลือ

หากเป็ดวงชาตาคน บุคลิกลักษณะของคนที่ดาวราหูทับลัคนา เป็นธาตุชั้น ๑ อสีติธาตุและเป็นวรโคตมนวางค์  เจ้าชะตาจะเป็นคนที่มีความตื่นตัวอยู่เสมอ กระฉับกระเฉงคล่องแคล่วว่องไว บางครั้งดูเหมือนรีบร้อน รุกรี้รุกรนในทุกอิริยาบท ดูกระโดกกระเดกชอบกล บางทีดูเก้งก้างไม่แนบเนียน มีการแสดงออกค่อนไปทางนักเลง อาจจะเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ แต่จะแสดงบุคลิกคล้ายนักเลง ไม่ว่าการเดิน การนั่ง ยืน พูด เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย พูดจาเด็ดขาด ท้าทาย หรือพูดคุยโวโอ้อวดว่าตนยิ่งใหญ่

ดาวราหูในดวงชะตาเดิมจะให้คุณหรือไม่ให้คุณก็ตาม ถ้าดาวราหูกุมลัคนา  หากดาวราหู(๘) เป็นธาตุ ชั้น ๑ อสีติธาตุ จะทำให้มั่งมีศรีสุข แต่ถึงจะมั่งมีขนาดไหนก็ตาม หรือมียศตำแหน่งสูงระดับไหนก็ตาม ก็อดที่จะมีความละโมภโลภมากไม่ได้ คือ ยิ่งรวยยิ่งโลภ บางคนโลภจนต้องติดคุกติดตะรางก็มี ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีความโลภ มีเท่าใด ได้มาเท่าไร คำว่าพอไม่มี บางคนรู้ดีว่าเป็นสิ่งผิด หรือสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม แต่ก็ยังอยากได้ อยากทำ บางคนแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ผิดกฎหมาย

แต่ว่าดาวราหู ๘ เป็นดาวที่มีจิตใจกว้างขวาง ชอบเลี้ยงบริวารเป็นมือเป็นเท้า นิสัยค่อนข้างไปทางนักเลง

ดาวราหูเป็นดาวที่มีความสามารถเฉพาะตัว เรียกว่า "มีทีเด็ด ไม้เด็ด" เลยทีเดียว เช่น ความสามารถในด้านกีฬา การเป็นนักแสดงที่มากความสามารถ การเสี่ยงโชคในการเล่นการพนัน การแข่งขันชิงดีชิงเด่น เป็นผู้มีจิตรานุภาพสูงและเข้มแข็ง มีความเฉลียวฉลาดสามารถชักจูงหรือชักชวนผู้อื่นให้เชื่อถือและศรัทธาในตนเองได้ มีประสบการณ์เรื่องอบายมุขทั้งปวง แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเก่งและแนบเนียน มีความรวดเร็วแบบฉับพลันในด้านความคิดและการกระทำ

แต่ถ้าดาวราหูในดวงเดิม เป็นธาตุ ชั้น ๔ ธาตุคู่ศัตรู ไม่ให้คุณ  จะเป็นไปตามคำที่ว่า หลงมัวเมาทายราหู เจ้าชะตาจะเป็นคนที่ที่ลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุข และกิเลสตัณหา มีความอยากสวย อยากได้ อยากมี อยากเป็น ไปเสียทุกอย่าง มีความวู่วามบุ่มบ่าม ขาดสติยั้งคิด ชอบฉ้อฉล เอาเปรียบผู้อื่นชอบเล่นการพนันติดเป็นนิสัย เจ้าเล่ห์แสนกล ฉลาดแกมโกงทั้งซึ่งหน้าและลับหลัง หลอกลวง ปลิ้นปล้อน กะล่อน ตลอดจนหลงงมงาย หลงไหลในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ชอบปกปิด อำพราง ซ่อนเร้น

ในช่วงที่ดาวราหูกุมลัคน์ เจ้าชะตาจะต้องระวังโรคเกี่ยวกับลม เช่น ความดันโลหิตสูงหรือต่ำ โรคเบาหวาน โรคตับอักเสบ แผลบาดทะยัก

ในการพยากรณ์ดวงชาตาจร หากดาวราหู(๘) จรเป็นธาตุ ชั้น ๑ อสีติธาตุ ให้คุณแก่เจ้าชาตามาก เป็นธาตุ ชั้น ๒ ธาตุคู่มิตร ให้คุณแก่เจ้าชาตา หากเป็นธาตุ ชั้น ๓ ธาตุเป็นกลาง หากเป็นธาตุ ชั้น ๔ ธาตุคู่ศัตรู ให้โทษแก่เจ้าชาตา  ถามว่าให้คุณและให้โทษอย่างไร ก็ต้องกลับไปดูดวงชาตาเดิม ว่าดาวราหู(๘) ในดวงชาตาเดิม เป็นดาวเจ้าเรือนอะไร จรไปสถิตราศีอะไร เรือนชาตาอะไร  ก็ให้คุณและให้โทษตามนั้น

๔. ดาวศุกร์(๖) จากคำกลอนที่ท่านบูรพาจารย์ได้กล่าวว่า “กิเลสสมบัติทายศุกร์” มีคำที่เป็นคำหลัก( keyword ) อยู่สองคำ คือคำว่า กิเลส กับคำว่าสมบัติ

.คำว่ากิเลส หมายถึง ความรัก ความสวยงาม รสนิยมทางด้านศิลปะ

ความรัก เป็นพื้นฐานที่สำคัญทางจิตใจของมนุษย์ องค์ประกอบสำที่สำคัญของความรักคือ กามารมณ์ ความต้องการทางเพศ ความต้องการความสุขสบาย ท่านบูรพาจารย์ท่านกล่าวว่า กามารมณ์มีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ฉันใด ดาวศุกร(๖) ก็มีความสำคัญต่อดวงชาตาของแต่ละคนฉันนั้น ความสวยงาม ทำให้โลกสดใส่ มีชีวิตชีวา สดชื่นสำหรับคนที่ได้พบเห็น ฉะนั้น คนที่ดาวศุกร์เด่น ถึงลัคนา จะเป็นคนรักสวยรักงาม ชอบแต่งตัวให้ดูสวยงาม เป็นเสน่ห์แก่คนที่ได้พบเห็น หรือเพศตรงข้าม คนที่ดาวศุกร์เดนและถึงลัคนา จะเป็นคนมีอารมณ์สุนทรีทางด้านศิลปะและการแสดงอีกด้วย

.คำว่า สมบัติ หมายถึง การเงิน ทรัพย์สมบัติ คนที่ดาวศุกร์เด่นและถึงลัคนา จะเป็นคนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน เงินทอง

คนที่มีดาวศุกร์ถึงลัคนา หากเป็นหญิง จะเป็นคนที่รูปร่างสวยงาม มีเสน่ห์สำหรับผู้ที่ได้พบเห็น หากเป็นชาย จะเป็นคนรูปหล่อ ท่าทางสง่างาม มีเสน่ห์ต่อผู้ที่ได้พบเห็น 

ในดวงชาตาเดิมดาวศุกร์(๖) เป็นเกษตรในราศีตุลย์และราศีพฤษภ ดาวศุกร์(๖) เป็นเกษตร เจ้าชาตาจะเป็นผู้มีวาสนาดีในด้านงานศิลปะ เป็นคนเสน่ห์ในเรื่องเพศ ความมีเสน่ห์ในเรื่องกามคุณ มีศิลปะในเรื่องเพศ มีความนิยมชมชอบความรัก และมีรสนิยมในการผลิตงานด้านศิลปะได้ด้วยตนเอง เป็นคนรักสนุก เป็นคนใจอ่อนขี้สงสาร เจริญด้วยทรัพย์สิน เงินทอง ดาวศุกร์(๖) เป็นสัญลักษณ์ของงานด้านการเงิน การธนาคาร เศรษฐศาสตร์ การอาชีพที่เกี่ยวกับความสวยงาม งานศิลปะทุกประเภท เป็นกวี นักประพันธ์หรือเป็นศิลปิน จะเป็นคนมีความสามารถในด้านความสวยงาม สามารถเป็นนักออกแบบเสื้อผ้า หรือเป็นช่างผมที่สามารถออกแบบทรงผมได้อย่างสวยงาม

.ดาวศุกร์(๖)ในราศีพฤษภ ซึ่งเป็นราศีธาตุดิน จะเป็นคนที่ นักแน่นมั่นคงในด้านความรัก รักใครรักจริง เปลี่ยนแปลงยาก เป็นคนละเอียดรอบคอบในด้านการดูแลทรัพย์สินเงินทอง รู้จักใช้เงินให้เป็นประโยชน์ ดาวศุกร์(๖) ในราศีตุลย์ ซึ่งเป็นราศีธาตุลม เป็นคนประเภทมีอารมรณ์โรแมนติค สามารถปรับเปลี่ยนความรักได้ตามสถานการณ์ บางครั้ง อาจจะเป็นคนเจ้าสำราญ เป็นคนมีความสามารถในการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปเพิ่มพูนคุณค่า โดยการลงทุนหรือทำให้เกิดประโยชน์มากกว่าคนราศีพฤษภ เป็นคนมีสามารถในการสร้างสรรค์งานทางด้านศิลปะ หากเป็นนักแสดงก็จะเป็นนักแสดงที่มี   ควาสามารถ แสดงได้อย่างสมบทบาท

ดาวศุกร์(๖) เป็นประในราศีเมษและราศีพิจิก ดาวศุกร์(๖)เป็นประ ท่านบูรพาจารย์ท่านกล่าวว่า คนที่มีดาวศุกร์เป็นประ เจ้าชาตาจะร่างกายรูปทรงมักผิดแปลกจากคนธรรมดา ประสาท หูและตาอาจผิดปกติ มีโรคประจำตัวที่รักษายาก อวัยวะอาจไม่สมบูรณ์ ความต้องการทางกามารมณ์จะน้อย ความรักอาจจะมีปัญหา ชีวิตครอบครัวไม่มีความสุข โอกาสที่จะผิดหวังในความรักมีอัตราสูง ชีวิตครอบครัวไม่มีความสุข คู่อาจจะเป็นคนที่มีตำหนิ คือ เคยมีคู่มาก่อน อาจจะเป็นพ่อหม้ายหรือแม่หม้าย พ่อร้างหรือแม่ร้าง หรืออาจจะเป็นคนที่มีอายุแก่กว่าเจ้าชาตามาก

.ดาวศุกร์(๖) ในราศีเมษ ซึ่งเป็นราศีธาตุไฟ ดาวศุกร์(๖) เป็นธาตุน้ำ เป็นธาตุคู่ศัตรู หากดาวศุกร์(๖) สถิตในภพอื่นนอกจากทุสนะภพ(อริ มรณะ วินาสน์) จะทำให้เจ้าชาตามีความรักไม่สมปรารถนา ผิดหวังในความรัก แบบรักง่ายหน่ายเร็ว แต่งงานเร็ว หย่าเร็ว ชีวิตครอบครัวไม่มีความสุข หากดาวศุกร์(๖) สถิตในทุสนะภพและเป็นราศีธาตุไฟ คือ ราศีเมษ ราศีสิงห์และราศีธนู ดาวศุกร์ในราศีดังกล่าวจะกลับกลายเป็นธาตุชั้น ๑ ก็จะเป็นคนรักใครรักจริงและเป็นความรักอันบริสุทธิ์ ถูกต้องตามขนบธรรมเนียบประเพณี ความต้องการทางกามารมณ์จะมีมาก ท่านอาจารย์บรรเทา จันทรศร(อุตรภัทร์) ท่านกล่าวดาวศุกร์ในตำแหน่งนี้ จะเป็นดวงชาตาที่มีความต้องการทางเพศไม่น้อย แต่จะมีมากจนเป็นซุปเปอร์แมน

ในการพยากรณ์ดวงชาตาจร  หากดาวศุกร์(๖) จรเป็นธาตุ ชั้น ๑ อสีติธาตุ ให้คุณแก่เจ้าชาตามาก เป็นธาตุ ชั้น ๒ ธาตุคู่มิตร ให้คุณแก่เจ้าชาตา หากเป็นธาตุ ชั้น ๓ ธาตุเป็นกลาง หากเป็นธาตุ ชั้น ๔ ธาตุคู่ศัตรู ให้โทษแก่เจ้าชาตา  ถามว่าให้คุณและให้โทษอย่างไร ก็ต้องกลับไปดูดวงชาตาเดิม ว่าดาวศุกร์(๖)  ในดวงชาตาเดิม เป็นดาวเจ้าเรือนอะไร จรไปสถิตราศีอะไร เรือนชาตาอะไร  ก็ให้คุณและให้โทษตามนั้น  แต่ดาวศุกร์(๖) เป็นดาวที่เดินเร็ว ใช้เวลาเพียง ๓๐ วัน ก็ย้ายราศีแล้ว ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ไม่ค่อยชัดเจนเหมือนดาวพฤหัส(๕) ใช้เวลา ๑ ปี  ดาวเสาร์(๗) ใช้เวลา ๒ ปี ครึ่งและดาวราหู(๘) ใช้เวลา ๑ ปี ครึ่ง

#สนใจสมัครเรียนโหราศาสตร์ไทย อย่างเป็นระบบ ทำให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถทางด้านด้านโหราศาตร์ไทย แบบครบวงจร สามารถในการวิเคราะห์ดวงชาตาเดิมและดวงชาตาจรได้ สามารถนำความรู้ที่ได้จากเรียนไปใช้ในชีวิตประจำวันและสามารถเป็นนักพยากรณ์ที่ดีได้ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมให้คลิค : m.me/arjarnthi หรืออยากอ่านบทความใหม่ ๆ ให้ไปที่ เวปไซต์ : www.arjarnthi.com แล้วให้ Subscribe ท่านจะได้อ่านบทความใหม่ ๆ ผ่านทางอีเมล์

Read more

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวเสาร์(๗)

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวเสาร์(๗)

ในการพยากรณ์ดวงชาตาตามหลักโหราศาสตร์ไทย จะมีดาวนพเคราะห์จำนวน ๑๐ ดวง โดยแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือดาวศุภะเคราะห์ มีดาวจันทร์(๒) ดาวพุธ(๔) ดาวศุกร์(๖) ดาวพฤหัส(๕)  ดาวบาปเคราะห์ มีดาวอาทิตย์(๑) ดาวอังคาร(๓) ดาวเสาร์(๗) ดาวราหู(๘) ดาวที่เป็นได้ทั้งศุภะเคราะห์และบาปเคราะห์ มีดาวเกตุ(๙) และดาวมฤตยู(๐)  จะเห็นได้ว่าดาวพระเสาร์(๗) เป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ ให้

ดาวที่คุ้มโทษได้ มีดาวอะไรบ้าง

ดาวที่คุ้มโทษได้ มีดาวอะไรบ้าง

ในราศีทั้ง ๑๒ ราศี  จะแบ่งออกเป็น ๔ ประเภท คือ ๑. ปัศวะราศี  ประเภทสัตว์บก ๔ เท้า มีราศีเมษ ราศีพฤษภ และราศีสิงห์  ๒. นระราศี ประเภทมนุษย์ มีราศีเมถุน ราศีกันย์ ราศีตุลย์ ราศีธนู และราศีกุมภ์  ๓. อัมพุราศี  ประเภทสัตว์น้ำมี

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวศุกร์(๖)

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวศุกร์(๖)

เคล็ดลับเกี่ยวกับดาวศุกร์  (Venus) ดาวศุกร์(๖) จากคำกลอนที่ท่านบูรพาจารย์ได้กล่าวว่า “กิเลสสมบัติทายศุกร์” มีคำที่เป็นคำหลัก( keyword ) อยู่สองคำ คือคำว่า กิเลส กับคำว่าสมบัติ .คำว่ากิเลส หมายถึง ความรัก ความสวยงาม รสนิยมทางด้านศิ

คุณ-โทษของดาวที่เดินวิกลคติ

คุณ-โทษของดาวที่เดินวิกลคติ

ดาวที่เดินผิดปกติคือ  เรียกว่า วิกลคติ   ความหมายของดาวที่เดินผิดปกติโดยปกติแล้วการโคจร หรือการเดิน ของดวงดาวในทางโหราศาสตร์นั้น จะเดินตามระยะเวลาที่ได้มีการ คํานวณเอาไว้แต่ทว่า ในการโคจรดวงดาว จะมีภาวะบางอย่างที่ทําให้ การโคจรแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งในทางโหราศาสตร์ไทยจะกล่าวถ ึงการเดิน แบบผิ